วันนี้ (3 ธันวาคม 2568) นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยในงานสัมมนา SUSTAINABILITY FORUM 2026 เรื่อง Green Energy Powering Sustainability จัดโดยกรุงเทพธุรกิจ ตอนหนึ่งว่า รัฐบาลเตรียมเปิดประกาศเชิญชวนให้เอกชนเข้ามายื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม สำหรับแปลงสำรวจในทะเลอันดามันของประเทศไทย หลังจากเรื่องดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรียบร้อยแล้ว
"ในด้านการสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ประเทศไทยเองต้องพยายามจัดหาแหล่งพลังงานใหม่ ๆ ให้กับประเทศ ทั้งจากภายนอกและจากในบ้านเราเอง โดยอาจจะเล่าให้พวกเราดีใจว่า ที่ผ่านมามีการพูดว่าก๊าซในอ่าวไทยเริ่มลดลง การจะไปใช้พื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา ตอนนี้ก็ไม่ต้องพูดถึง แต่ตอนนี้มีข่าวดีว่าได้มีการศึกษาแล้วพบว่า พื้นที่ฝั่งอันดามันที่เป็นอยู่ในพื้นที่ประเทศไทยเองก็มีศักยภาพมาก โดยจะประกาศเปิดแปลงสำรวจต่อไป"
นายอรรถพล กล่าวว่า จากการศึกษาพื้นที่การเปิดให้เอกชนเข้ามายื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม สำหรับแปลงสำรวจในทะเลอันดามันนั้น ถือเป็นแหล่งที่มีศักยภาพ และก็เป็นเวลาใกล้เคียงกับประเทศอินโดนีเซียที่เจอแหล่งปิโตรเลียมด้วย ดังนั้นถ้าเปิดให้มีการสำรวจอย่างจริงจังและค้นพบขึ้นมาจะเป็นแหล่งพลังงานใหม่ให้กับประเทศ
สำหรับการดำเนินมาตรการด้านพลังงานของรัฐบาลนั้น นายอรรถพล กล่าวว่า การขับเคลื่อนมาตรการด้านพลังงานได้ถูกกำหนดอยู่ภายใต้แผน Quick Big Win มีด้วยกัน 3 มาตรการ 10 แผนงาน/โครงการ เน้นการพัฒนาพลังงานสะอาดตั้งเป้าหมายกระตุ้นการลงทุนให้เกิดขึ้น 1 ล้านล้านบาท โดยมีโครงการที่สำคัญเช่น
โครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน เป้าหมาย 1,500 เมกะวัตต์ เพื่อให้ชุมชนได้ประโยชน์ โดยให้เป็นโครงการที่ภาคเอกชนต้องร่วมกับชุมชนทำโซลาร์ฟาร์มชุมชนขนาดไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ กำหนดราคารับซื้อ 2.16 บาทต่อหน่วย คาดว่าจะกระตุ้นการลงทุน 30,000 ล้านบาทต่อปีจากการจ้างงานประมาณ 1,700 ตำแหน่งและสามารถลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้เกือบหนึ่งล้านตัน
ขณะเดียวกันยังมีโครงการระบบการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) โดยประชาชนสามารถนำค่าใช้จ่ายในการติดตั้งโซลาร์ในบ้านไม่เกิน 200,000 บาท ไปหักลดหย่อนภาษีได้ ล่าสุด ครม.ได้อนุมัติแล้วรอแค่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งไม่นานจากวันที่ประกาศไปจนถึงเดือนธันวาคม 2571 มีเวลา 3 ปี โดยตั้งเป้าไว้ประมาณ 90,000 หลังคาเรือน สามารถกระตุ้นการลงทุนได้ประมาณหมื่นกว่าล้านบาท
อีกทั้งยังมีมาตรการด้านการส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานเรื่องพลังงานสะอาด นั่นคือโครงการการซื้อขายพลังงานโดยตรงระหว่างผู้ผลิตพลังงานและผู้ใช้พลังงาน (Direct PPA) รอบรับกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ สามารถคุยตรงกับผู้ผลิตไฟฟ้า และนำไฟเข้าระบบ โดยจะคิดแค่ค่าผ่านสายเท่านั้น เช่นเดียวกับการพัฒนาระบบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่ EEC
นายอรรถพล กล่าวว่า ในมาตรการสุดท้าย คือ การมองไประยะยาว ผ่านการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าหรือว่า PDP โดยมีการตั้งคณะกรรมการจัดทำแผนพีดีพีใหม่ ตอนนี้กำลังเร่งให้คณะกรรมการชุดนี้เขียนแผนออกมาให้ได้ทันตามแผน ซึ่งภายใต้แผนนี้จะกำหนดเรื่องของคาร์บอนนิวทรัล 2050
“ภายใต้แผนกำหนดว่าจะต้องใช้พลังงานสะอาดแค่ไหนปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้แค่ไหน เพราะข้างหน้าเราจะอาศัยโซลาร์อย่างเดียวไม่พอแน่นอน จึงต้องใช้ตัวพลังงานใหม่เข้ามาคือตัวไฮโดรเจน และเทคโนโลยี SMR ซึ่งเป็นเรื่องของนิวเคลียร์ โดยเทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้ปลอดภัย และจะมองดูว่าเป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็กและที่เห็นว่ามันปลอดภัยคืออันนี้เป็นประโยชน์ของระบบปิดเกิดปัญหาชัตดาวน์ได้ ซึ่งตอนนี้ก็ต้องสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนด้วย”