KEY
POINTS
นายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.)ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยความคืบหน้า “โครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน หรือ โครงการโซลาร์บิ๊กล็อต (RE Big Lot) รอบที่ 2 ว่า ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ให้ภาคเอกชนพิจารณาปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าเพิ่มเติม เพื่อให้เป็นประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
จากที่กำหนดอัตราค่าไฟฟ้าในรูปแบบการให้เงินสนับสนุนตามต้นทุนที่แท้จริง ( FiT) ของโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินอยู่ที่อัตรา 2.1679 บาทต่อหน่วย รวมถึงมอบหมายให้ กกพ. พิจารณาปรับปรุงกรอบระยะเวลาการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้านั้น ล่าสุด กกพ.ได้ส่งหนังสือถึงเอกชนครบทั้ง 64 ราย คิดเป็นกำลังผลิตรวมประมาณ 1,600 เมกะวัตต์ เพื่อขอให้พิจารณาปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าลง 1 สตางค์ เหลือ 2.1579 บาทต่อหน่วย
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอการตอบรับจากภาคเอกชน โดยหากทุกรายพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐ คาดว่าขั้นตอนต่อไปทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จะเดินหน้าสู่ขั้นตอนลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าต่อไป
“ปัจจุบันได้ส่งหนังสือแจ้งขอความร่วมมือให้ลดค่าไฟฟ้าลง 1 สตางค์แล้ว ก็ต้องรอว่าเอกชนแต่ละรายคิดเห็นอย่างไร ซึ่ง กกพ. ก็ตั้งเป้าหมายว่าภายในสิ้นปีนี้จะได้ข้อสรุป โดยค่าไฟฟ้าที่ลดลงจากโครงการดังกล่าวจะไม่มีผลต่ออัตราค่าไฟฟ้าของประชาชน เพราะเป็นคนละส่วนกับการคำนวณค่าไฟฟ้าทั่วไป เนื่องจากเป็นอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการใช้ไฟฟ้าสะอาดและพร้อมที่จะจ่ายส่วนต่างค่าไฟฟ้าตามกติกาการใช้ไฟฟ้าสะอาด”
สำหรับอัตราค่าไฟฟ้าตามโครงการโซลาร์บิ๊กล็อต (RE Big Lot) รอบที่ 2 นั้น ถือเป็นส่วนหนึ่งของการกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าสีเขียว สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าแบบเจาะจงแหล่งที่มาของไฟฟ้า (Utility Green Tariff หรือ เรียกว่า UGT 2) ซึ่งในส่วนของอัตราค่าไฟฟ้า UGT 2 ทาง กกพ.คาดว่า จะประกาศได้ภายในสิ้นปี 2568 นี้ และได้ใช้ไฟฟ้า UGT 2 ภายในไตรมาส 1 ปี 2569
โดยไฟฟ้าจาก UGT2 จะมาจากโครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ FiT ปี 2565-2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 (เฟสแรก) จำนวน 4,852.26 เมกะวัตต์ ซึ่งนำมาให้บริการกับผู้ที่สนใจซื้อไฟฟ้าสีเขียวแบบเจาะจงแหล่งที่มาของไฟฟ้า หรือ ผู้ที่ต้องการใช้ไฟฟ้าสะอาด