อัปเดต ‘โซลาร์ฟาร์มชุมชน’ ลุ้นค่าไฟต่ำกว่า 2.25 บาท-พลังงานเคาะราคาเข้าร่วม

10 พ.ย. 2568 | 23:11 น.

อัปเดตความคืบหน้าโครงการ ‘โซลาร์ฟาร์มชุมชน’ ประชาชาลุ้นค่าไฟต่ำกว่า 2.25 บาทต่อหน่วย รอกระทรวงพลังงานเคาะราคาให้เอกชนเข้าร่วม

KEY

POINTS

  • โครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน 1,500 เมกะวัตต์ อยู่ในขั้นตอนการหารือ โดยกระทรวงพลังงานจะเป็นผู้กำหนดราคาเข้าร่วมโครงการแทนการใช้วิธีประมูล
  • ตั้งเป้าให้ชุมชนที่เข้าร่วมโครงการได้ใช้ไฟฟ้าในราคาไม่เกิน 2.25 บาทต่อหน่วย โดยผลประโยชน์จะตกอยู่กับชุมชนที่ตั้งโรงไฟฟ้า
  • หากมีเอกชนสนใจเข้าร่วมเกินกว่าโควต้า จะใช้หลักการมาก่อนได้ก่อน (First come, First served) โดยมีกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้วางหลักเกณฑ์คัดเลือกชุมชน

นายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน 1,500 เมกะวัตต์ตามนโยบาย Quick Big Win กระทรวงพลังงาน ว่า ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของการหารือเรื่องของเทคนิค ราคา และชุมชน โดยต้องรอให้กระทรวงพลังงานสรุปว่าจะดำเนินการอย่างไรทั้งข้อดี ข้อเสีย และความเหมาะสม

ส่วนภาคเอกชนที่ต้องการจะเข้าร่วมโครงการ เชื่อว่าคงจะไม่ใช้วิธีการประมูล เพราะไม่เช่นนั้นก็จะมีการแข่งขันกันจนหาผู้ลงทุนดำเนินโครงการไม่ได้ โดยต้องรอให้กระทรวงฯสรุปราคาอย่างชัดเจน 

“มูลค่าของการลงทุนอาจจะเป็นกระทรวงพลังงานที่กำหนดราคามาเลย แต่ก็ต้องดูองค์ประกอบอื่นด้วย เช่น สายส่ง ความต้องการใช้ไฟฟ้ในพื้นที่ ชุมชนมีความพร้อมหรือไม่ ซึ่งจำนวนเมกกะวัตต์มากน้อยไม่ให้เกิน 10 เมกฯ เช่น ชุมชนหนึ่งมีความต้องการใช้แค่ 2 เมกฯ ไฟฟ้าก็จะล้นเกิน และสายส่งมีความพร้อม หรือว่างแค่ไหน เป็นต้น”

ด้านกระบวนการของโครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชนนั้น ไม่ต้องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมติ เพราะคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) กำหนดมาแล้วว่าให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ไปดูเรื่องรายละเอียดต่อไป

ส่วน กกพ.จะมีหน้าที่ในการกำกับส่วนของอัตรา สายส่ง เทคนิคให้อยู่ในภาวะมั่นคง 

อัปเดต ‘โซลาร์ฟาร์มชุมชน’ ลุ้นค่าไฟต่ำกว่า 2.25 บาท-พลังงานเคาะราคาเข้าร่วม

“กระทรวงมหดาไทยจะต้องเป็นผู้วางหลักเกณฑ์ว่าชุมชนไหนได้ ส่วนกกพ. จะดูแลค่าไฟไม่ให้เกิดการส่งผ่าน หรือผลกระทบที่ไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น การคิดอัตราต้องเหมาะสม สมดุล”

อย่างไรก็ดี หากมีความต้องการของภาคเอกชนเกินกว่า 1,500 เมกะวัตต์ จะใช้วิธีการในรูปแบบที่เรียกว่ามาก่อนจะได้รับการพิจารณาก่อน (first come, first servrd) ซึ่งกพช. มอบหมายให้กระทรวงพลังงานคิดหาวิธีการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย 

สำหรับราคาค่าไฟนั้น มีการกำหนดว่าจะต้องไม่เกิน 2.25 บาทต่อหน่วย โดยวิธีคิดต้องรอให้ทางฝ่ายนโยบายสะเด็ดน้ำก่อน แต่เข้าใจว่าส่วนลดดังกล่าว ผลประโยชน์ (Benefit) จะไปอยู่กับชุมชนที่ตั้งโรงไฟฟ้า 1,500 เมกะวัตต์ตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งไม่ได้เป็นการเพิ่มภาระให้กับต้นทุนส่วนรวมของประชาชน

“การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จะรับซื้อไฟฟ้ามาในราคาที่กำหนดผ่านกริด หลังจากนั้นจะลดราคาในบิลค่าไฟในพื้นที่นั้น เรียกว่าไม่ให้เกิน 2.25 บาทต่อหน่วย แต่ตัวเลขจะเป็นเท่าไหร่ กระทรวงพลังงานจะเป็นผู้เคาะ ส่วนวิธีการคิดต้องมองว่าจะกระจายผลประโยชน์ลงไปในชุมชนอย่างไรให้เกิดความเท่าเที่ยม เพราะ 1,500 เมกะวัตต์จะกระจายทั่วประเทศ และมีหลายชุมชน“