กางแผนลงทุน ปตท. กว่า 2.29 แสนล้านในสหรัฐ ทั้ง LNG-Ethane

22 พ.ค. 2568 | 00:19 น.

ปตท. เปิดแผนลงทุนกว่า 2.29 แสนล้านบาทในสหรัฐอเมริกา ทั้งนำเข้า LNG-Ethane ระยะเวลา 15 ปี เผยเตรียมผลักดันความร่วมมือโครงการ Alaska LNG

นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงประเด็นเรื่องการสนับสนุนภาครัฐด้านพลังงานในการเจรจากับสหรัฐอเมริกา ว่า ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 2-3 แนวทางที่ดำเนินการอยู่ ประกอบด้วย

การนำเข้าก๊าซธรรมชาติ (LNG) จากบริษัท Cheniere Energy ประมาณ 1 ล้านตันต่อปี โดยมีระยะเวลา 15 ปี ซึ่งจะเริ่มนำเข้าตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป โดยมีมูลค่าประมาณ 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2.29 แสนล้านบาท

อีกทั้งยังมีบริษัท ปตท. โกลบอล แคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือจีซี (GC) ซึ่งจะมีนำเข้าก๊าซอีเทน (Ethane) ประมาณ 400,000 ตันต่อปี ในระยะเวลา 15 ปี มูลค่าการลงทุนประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยจะเริ่มดำเนินการในปี 2572

นอกจากนี้ ล่าสุดบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. มีแผนขยายความร่วมมือค้าก๊าซธรรมชาติในมลรัฐอลาสก้า โดยลงทุนผ่าน PTT International Trading USA

กางแผนลงทุน ปตท. กว่า 2.29 แสนล้านในสหรัฐ ทั้ง LNG-Ethane

สำหรับการผลักดันความร่วมมือในโครงการ Alaska LNG ร่วมกับฝ่ายสหรัฐฯ เนื่องจากมองว่าน่าสนใจในแง่พื้นที่มากกว่าแหล่งอื่นในอเมริกา รวมทั้งยังมีความยืดหยุ่นในสัญญาการซื้อขาย ว่าไม่จำกัดพื้นที่ขนส่งสามารถนำไปขายได้ที่อื่นด้วย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มเติมอื่น ๆ โดยความร่วมมือในโครงการดังกล่าวยังเป็นโอกาสในการสร้างความร่วมมือในการลงทุนและผลิตก๊าซธรรมชาติเพื่อสร้างเสริมความมั่นคงด้านพลังงานของไทย

“ปตท.จะมุ่งเน้นการดำเนินการที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ โดยหากเป็นการทำที่ประเทศได้ประโยชน์ด้วยยิ่งเป็นเรื่องที่ดี”

 

นอกจากนี้ ปัจจุบัน ปตท. ยังมีการซื้อน้ำมันดิบจากสหรัฐอเมริกาประมาณ 10% โดยต้องเรียนว่าไม่ใช่ปริมาณที่แน่นอน แต่จะขึ้นอยู่กับราคา รวมถึงความต้องการซื้อ (Demand) และความต้องการขาย (Supply) ในช่วงเวลานั้น

กางแผนลงทุน ปตท. กว่า 2.29 แสนล้านในสหรัฐ ทั้ง LNG-Ethane

นายคงกระพัน กล่าวอีกว่า จากสัญญาณสถานการณ์พลังงานที่มีความผันผวน และเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มเผชิญภาวะถดถอย อันเนื่องจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นนโยบายขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ในช่วงปลายไตรมาสที่ 1 ปริมาณการผลิตน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นในตลาดโลก และความต้องการใช้พลังงานที่ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว 

ปตท. จึงได้ดำเนินเชิงรุกจัดตั้งวอร์รูม เตรียมแผนรับมือเศรษฐกิจถดถอยครอบคลุมการดำเนินงานใน 5 ด้าน ประกอบด้วย 

  • Strategy ทบทวนกลยุทธ์เดิมพร้อมพิจารณาความท้าทายใหม่ที่จะเข้ามากระทบ พบว่ากลยุทธ์กลุ่ม ปตท. มาถูกทาง เหมาะสม สามารถรับมือกับปัจจัยภายนอกและความท้าทายจากเรื่องสงครามการค้าได้ เพียงแต่บางเรื่องต้องเร่งให้เร็วขึ้น เช่น การพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน และยกระดับความร่วมมือภายในกลุ่ม ปตท. 
  • Financial Managementรักษาวินัยการเงิน บริหารต้นทุนการเงิน เสริมสภาพคล่องกระแสเงินสดรักษาระดับ Credit Rating 
  • Supply Chain & Customer ดูแลคู่ค้า ลูกค้าเพื่อสร้างความต่อเนื่องตลอด Supply Chain พร้อมเร่งดำเนินโครงการสร้างมูลค่าเพิ่ม 
  • Project Management ทบทวนความเป็นไปได้ของโครงการและการลงทุน โดยต้องพิจารณาการลงทุนอย่างรอบคอบ รวมถึงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน (Asset Monetization) ของ flagship 
  • Communication สื่อสารและสร้างความเข้าใจการดำเนินธุรกิจแก่ผู้มีส่วนได้เสียอย่างทั่วถึง