ครม.อนุมัติงบกลางเฉียด 9 พันล้าน ให้ กกต.จัดเลือกตั้ง-ทำประชามติ

23 ธ.ค. 2568 | 07:19 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ธ.ค. 2568 | 07:48 น.

ครม. อนุมัติงบกลางเฉียด 9 พันล้านบาท ให้ กกต. เป็นค่าใช้จ่ายในการควบคุมและจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการเลือกตั้งทั่วไป และการออกเสียงประชามติที่กำหนดวันออกเสียงประชามติ

KEY

POINTS

  • คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติงบกลางปี 2569 เป็นจำนวนเงินเกือบ 9 พันล้านบาท
  • งบประมาณดังกล่าวจัดสรรให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
  • วัตถุประสงค์หลักเพื่อใช้ในการควบคุมและจัดการเลือกตั้ง ส.ส. ทั่วไป และการออกเสียงประชามติในวันเดียวกัน

วันนี้ (23 ธันวาคม 2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสิริงพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. มีมติอนุมัติในหลักการให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือก (สำนักงาน กกต.) ตั้งดำเนินการขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 งบกลางฯ 8,978 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการควบคุมและจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการเลือกตั้งทั่วไป และการออกเสียงประชามติ

สำหรับขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 8,978,267,690 บาท ประกอบด้วย

1. ค่าใช้จ่ายที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งดำเนินการเอง จำนวน 7,276,423,790 บาท

2. ค่าใช้จ่ายของหน่วยงานสนับสนุนที่ร่วมดำเนินการ จำนวน 1,701,843,900 บาท


ทั้งนี้ ขอให้ สำนักงาน กกต. และหน่วยงานสนับสนุนที่ร่วมดำเนินการจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ พร้อมรายละเอียดประกอบการพิจารณาให้ถูกต้องครบถ้วน รวมทั้งปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า ประหยัดการพิจารณาเป้าหมาย ประโยชน์ที่จะได้รับ ประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินการตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561

นายสิริงพงศ์ กล่าวว่า สำนักงาน กกต. มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการควบคุมและจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการเลือกตั้งทั่วไป 

รวมทั้งการออกเสียงประชามติที่กำหนดวันออกเสียงประชามติในวันเดียวกับวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ เป็นการเลือกตั้งทั่วไป เนื่องจากมีการยุบสภาผู้แทนราษฎรและมีการกำหนดวันออกเสียงประชามติเป็นวันเดียวกับวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปตามมติคณะรัฐมนตรี