KEY
POINTS
วันนี้ (8 ธันวาคม 2568)ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบหมายนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ (กนศ.) หรือ ครม.เศรษฐกิจ
โดยที่ประชุมเห็นชอบในหลักการและรับทราบการดำเนินมาตรการ “Quick Big Win” การเพิ่มโอกาสการออมและความมั่นคงทางการเงินของประชาชน โดยกระทรวงการคลัง (กค.) โดยจะมีการนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ มาตรการเพื่อเพิ่มโอกาสการออมและความมั่นคงทางการเงินของประชาชนดังกล่าวจะช่วยให้ประชาชนมีช่องทางในการออมที่หลากหลายและสะดวกมากขึ้น ประชาชนมีแรงจูงใจในการออม กระตุ้นให้ผู้ที่มีรายได้ปานกลางและมีรายได้น้อยมีการออมเพิ่มขึ้น มีภาวะทางการเงินที่ดี (Financial Well-being) มีรายได้ที่เพียงพอในการดำรงชีพยามเกษียณอายุ และภาครัฐสามารถบรรเทาภาระงบประมาณด้านสวัสดิการกรณีชราภาพในการดูแลผู้ที่ไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้
รองนายกฯ เอกนิติ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ฝากข้อสั่งการว่า ได้ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่จังหวัดสงขลา ประกาศ ข้อกำหนด และคำสั่งที่เกี่ยวข้องตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากเหตุภัยพิบัติได้คลี่คลายลง และเข้าสู่ช่วงการฟื้นฟูเมือง
โดยช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีได้ลงไปพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อติดตามเร่งรัดการฟื้นฟูเมือง รวมทั้งได้ไปที่จังหวัดสตูล เพื่อให้กำลังใจและรับฟังปัญหาจากประชาชน และคนทำงานในพื้นที่ ซึ่งที่นั่นก็มีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมเช่นกัน
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายกระทรวงมหาดไทย เพื่อปรับปรุงเกณฑ์การจ่ายเงินผู้เสียชีวิตรายละ 2 ล้านบาท ขยายให้ครอบคลุมผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมทั้งหมด 9 จังหวัดภาคใต้ ด้วยแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างนำเสนอ ครม. ตามขั้นตอนต่อไป
สำหรับที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าการขับเคลื่อนนโยบาย Quick Big Win ของรัฐบาล ซึ่งนโยบายดังกล่าวได้ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจทั้ง 3 ตัว ได้แก่
โดยมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา โดยดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภูมิภาค ปรับเพิ่มขึ้นจาก 65.9 ในเดือนกันยายน 2568 เป็น 71.1 ในเดือนตุลาคม 2568 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค มีการฟื้นตัวจาก 50.7 ในเดือนกันยายน 2568 มาอยู่ที่ 53.2 ในเดือนพฤศจิกายน 2568
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่น SMEs ปรับเพิ่มจาก 48.0 ในเดือนกันยายน 2568 เป็น 53.2 ในเดือนพฤศจิกายน 2568