‘BAAC Matching’  ตลาดดิจิทัลใหม่ของธ.ก.ส.  หนุนสินค้าชุมชนสู่เมือง

13 พ.ย. 2568 | 11:22 น.
อัปเดตล่าสุด :13 พ.ย. 2568 | 11:22 น.

ธ.ก.ส. เปิดตัว “BAAC Matching” ยกระดับสินค้าเกษตรสู่ตลาดดิจิทัล ‘ตัดคนกลาง เงินถึงมือชาวบ้าน 100%’ ชูสินค้าชุมชนคัดสรรคุณภาพ 19 หมวดหมู่ สร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดตัวแพลตฟอร์ม “BAAC Matching” เว็บไซต์ตลาดออนไลน์เพื่อเกษตรกรไทย ที่มุ่งสร้างระบบการค้าขายยุคใหม่ “ตัดคนกลาง เงินถึงมือผู้ผลิตเต็มจำนวน”

โดยเกษตรกรสามารถนำสินค้าขึ้นจำหน่ายได้โดยตรงถึงผู้บริโภคทั่วประเทศผ่านเว็บไซต์ baacmatching.baac.or.th เริ่มเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 

'BAAC Matching' เครื่องมือการตลาดยุคใหม่ ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงการเกษตรไทย ให้ก้าวไกลไปพร้อมกับโลกดิจิทัล โดยธ.ก.ส. ได้พัฒนาเว็บไซต์ เพื่อเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์เกษตรคุณภาพของลูกค้าเข้าสู่ตลาดผู้บริโภคโดยตรงทั่วประเทศ 

ซึ่งเป็นพื้นที่กลางในการ “จับคู่ธุรกิจ” ระหว่างเกษตรกรและผู้บริโภค ลดการพึ่งพาคนกลาง และสร้างระบบการตลาดที่ยั่งยืนให้กับภาคการเกษตรไทย 

‘BAAC Matching’  ตลาดดิจิทัลใหม่ของธ.ก.ส.  หนุนสินค้าชุมชนสู่เมือง นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ธ.ก.ส.ได้เปิดตัวเว็บไซต์ “BAAC Matching” ผ่าน http://baacmatching.baac.or.th อย่างเป็นทางการแล้ว ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ (11.11) ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของลูกค้า ธ.ก.ส. 

โดยมี 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ เกษตรกรรายย่อย วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตร และผู้ประกอบการรายย่อย ให้เข้าถึงผู้บริโภคทั่วประเทศผ่านช่องทางออนไลน์ 
 

“BAAC Matching เป็นมากกว่าช่องทางขายออนไลน์ แต่คือระบบที่ช่วยให้เกษตรกรตัวจริงได้รับผลตอบแทนเต็มเม็ดเต็มหน่วย โดยไม่มีการหักค่าการตลาดหรือค่าธรรมเนียม ธ.ก.ส. พัฒนาเพื่อให้เงินทุกบาทถึงมือผู้ผลิตโดยตรง”นายฉัตรชัยกล่าว

ปั้นสินค้าเกษตรให้มีแบรนด์ ปรับโฉมใหม่สู่ตลาดเมือง 

ธ.ก.ส. มองเห็นปัญหาหลักที่ทำให้สินค้าเกษตรของชุมชนแข่งขันในตลาดไม่ได้ ได้แก่ ดีไซน์สินค้า บรรจุภัณฑ์ การตลาด และการเข้าถึงตลาด จึงเข้ามาช่วย “รีแบรนด์” และพัฒนาศักยภาพในทุกมิติ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ 

โดยธนาคารได้จัดทีมผู้เชี่ยวชาญเข้าไปให้คำปรึกษาแก่เกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อปรับสูตรผลิตภัณฑ์ให้เข้ากับ “จริตผู้บริโภคเมือง” เช่น ลดความมัน เพิ่มความหวาน หรือปรับรสสัมผัสให้ได้มาตรฐาน พร้อมยกระดับบรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัยและสะดุดตา

การคัดเลือกสินค้าที่จะขึ้นจำหน่ายบนแพลตฟอร์มดำเนินการโดยสำนักงาน ธ.ก.ส. จังหวัดทั่วประเทศ (สนจ.) ซึ่งจะตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐาน เช่น ใบรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค  

ตลาดออนไลน์เพื่อเกษตรกร ไม่แสวงหากำไร 

แพลตฟอร์ม BAAC Matching ถูกออกแบบให้เป็น “ตลาดเพื่อเกษตรกร 100%” โดย ธ.ก.ส. ลงทุนพัฒนาระบบเองทั้งหมด โดยไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ผลิต ทำให้ราคาสินค้าบนแพลตฟอร์มถูกลงกว่าท้องตลาด เพราะไม่มีต้นทุนจากคนกลางหรือค่าใช้จ่ายบริหารจัดการ 

สำหรับช่องทางการจัดส่ง ธ.ก.ส. วางระบบโลจิสติกส์แบบยืดหยุ่น 3 รูปแบบ ได้แก่ จัดส่งโดยผู้ผลิตถึงผู้บริโภคโดยตรง (Direct Logistics), ลูกค้ารับสินค้าด้วยตนเอง (Pickup) ที่สาขา ธ.ก.ส. หรือจุด BR Outlet / Pop-up ทั่วประเทศ, และรับสินค้าที่สโมสรพนักงานสำนักงานใหญ่ ธ.ก.ส. 

“โมเดลนี้ถือเป็นการสร้างระบบเศรษฐกิจฐานรากแบบ “หมุนเวียนในชุมชน” (Circular Community Economy) ที่เกษตรกรมีรายได้ตรงและยั่งยืน โดยไม่ต้องพึ่งพาพ่อค้าคนกลาง”นายฉัตรชัยกล่าว 

เปิดตัวสินค้าชุมชนคุณภาพ 19 หมวดหมู่ สู่ตลาดดิจิทัล 

ระยะแรกของการเปิดตัว BAAC Matching จะมีสินค้าขึ้นระบบกว่า 19 หมวดหมู่ ครอบคลุมตั้งแต่สินค้าอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ไปจนถึงงานหัตถกรรมชุมชน โดยมีสินค้าแฟล็กชิพเด่นที่ผ่านการรีแบรนด์และพัฒนาร่วมกับ ธ.ก.ส.

เช่น ข้าวอุ่นอิ่ม (Warm & Full Rice) สินค้าเรือธงจากจังหวัดร้อยเอ็ด ที่เปลี่ยนจากการขายข้าวเปลือกมาเป็นข้าวพร้อมทาน (Ready to Eat) มี 5 สายพันธุ์ และเตรียมเพิ่มอีก 2 สายพันธุ์ บรรจุในถุงไมโครเวฟได้ภายใน 1 นาที 

นอกจากนี้ ยังมีสินค้าแปรรูปผลไม้ เช่น ทุเรียนกรอบ, ทุเรียนหนึบ, มะม่วงอบแห้ง 7 ชนิด อาหารพร้อมปรุงและอาหารแห้ง อาทิ เส้นจันท์, ก๋วยเตี๋ยวเรือฟรีซดราย, ผงปรุงรส “ชดาไทยตำรับอยุธยา”, เม็ดมะม่วงหิมพานต์, กาแฟหอมละมุน, น้ำสับปะรด “ชัวร์จูส” รวมทั้งยังมีผลิตภัณฑ์เชิงนวัตกรรม เช่น ข้าวโพดฟรีซดราย (ข้าวโพดมัมมี่) และส้มตำแวมไพร์ (ส้มตำฟรีซดรายที่โดนน้ำแล้วคืนรูปได้) 

สร้างโมเดลยั่งยืน เกษตรกรอยู่ได้ด้วยตนเอง 

นายฉัตรชัย ยังได้กล่าวถึงเป้าหมายสำคัญของ BAAC Matching ว่า ไม่ใช่การสร้าง “ธุรกิจขนาดใหญ่” แต่คือการสร้าง “ผู้ประกอบการรายย่อยจำนวนมาก” ที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ มีรายได้เลี้ยงครอบครัว และอยู่รอดได้อย่างยั่งยืน  

“เราต้องการให้เกษตรกรอยู่ได้ด้วยแรงของตัวเอง ธ.ก.ส. เป็นเพียงผู้ช่วยเปิดประตูตลาดให้ สินค้าดีที่ไม่เคยถูกพบเห็นในพื้นที่ห่างไกล จะถูกนำขึ้นสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ให้คนทั่วประเทศรู้จัก” 

BAAC Matching โมเดลใหม่ของ “การตลาดเพื่อเกษตรกร” 

การเปิดตัว BAAC Matching ของ ธ.ก.ส. ถือเป็นหนึ่งในต้นแบบของ “Agri-Commerce Platform” ที่รวมแนวคิดการตลาดดิจิทัลเข้ากับภารกิจทางสังคม โดยมีจุดแข็ง 3 ประการ คือ ลดต้นทุนระบบจัดจำหน่าย ด้วยการตัดคนกลาง, เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ ผ่านการรีแบรนด์และบรรจุภัณฑ์ที่ดึงดูด, และสร้างเครือข่ายเกษตรกรรายย่อยทั่วประเทศ ที่เชื่อมโยงกันบนแพลตฟอร์มเดียว 

“โมเดลนี้ไม่เพียงเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร แต่ยังสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้สินค้าชุมชนไทยก้าวสู่ตลาดระดับประเทศอย่างมั่นคงและยั่งยืน ซึ่งโครงการนี้ เป็นการสร้างระบบตลาดที่เติบโตคู่กับชุมชน จึงเชิญชวนประชาชนร่วมสนับสนุนสินค้าเกษตรคุณภาพ เพื่อร่วมสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ” นายฉัตรชัยกล่าวทิ้งท้าย 

 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,148 วันที่ 13 - 15 wฤศจิกายน พ.ศ. 2568