นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการทบทวนและจัดทำ แผนการคลังระยะปานกลาง คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถประกาศออกมาได้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ แผนดังกล่าวมีเป้าหมายสำคัญในการ "เรียกความเชื่อมั่น" ทั้งจากนักลงทุนและสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (เครดิตเรทติ้ง)
สำหรับแผนการคลังระยะปานกลางฉบับนี้จะแตกต่างจากอดีต โดยจะถูกออกแบบให้มีรายละเอียดที่เข้มข้น จะมีการลงรายละเอียดอย่างชัดเจนว่ารัฐบาลจะดำเนินการใดบ้าง เพื่อให้เกิดวินัยทางการเงินการคลังที่เข้มข้นขึ้น
“หากแผนการคลังระยะปานกลาง มีความชัดเจน จะส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่น และมีโอกาสที่เครดิตเรทติ้งจะกลับไปที่เดิมได้ เนื่องจากในอดีต แผนที่เคยเขียนไว้มักขาดรายละเอียด ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่น”
ทั้งนี้ ประเด็นหลักในแผนการคลังระยะปานกลางคือการจัดการหนี้สาธารณะ และโครงสร้างรายจ่าย/รายได้ ได้แก่
เป้าหมายสำคัญคือการนำสัดส่วนการขาดดุลต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) กลับมาสู่ระดับต่ำกว่า 3% ซึ่งเป็นระดับที่ควรจะเป็น ปัจจุบันสัดส่วนดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 4%
อย่างไรก็ตาม การปรับลดจาก 4% มาต่ำกว่า 3% นั้น จะไม่สามารถเกิดขึ้นภายในปีเดียวได้ แต่จะต้องดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป
แผนการคลังนี้จะต้องครอบคลุมทั้งเรื่องรายได้ รายจ่าย และหนี้สิน โดยจะมีการจัดทำ "แผนปฏิรูปรายได้" เข้ามาควบคู่กัน หากพิจารณาตามศักยภาพ สัดส่วนรายได้ต่อ GDP ควรอยู่ที่ประมาณ 17-18% แต่ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 14%
แม้รัฐบาลจะต้องการผลักดันให้ถึงศักยภาพ แต่คาดว่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 5 ปี และต้องมีการดำเนินการหลายอย่างควบคู่กันไปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บ
นายลวรณ กล่างว่า เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันที่ประเทศกำลังอยู่ในช่วงที่ยากลำบาก จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีคำอธิบายที่ชัดเจน
โดยรายละเอียดที่ระบุในแผนการคลังระยะปานกลางรอบนี้ จะต้องมีตารางตัวเลขที่ชัดเจนว่า ในแต่ละปีจะมีเป้าหมายเท่าไร หากแผนที่ออกมาไม่มีรายละเอียดชัดเจน จะไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้