คลังลุยปลดล็อกหนี้เสียผ่าน AMC เปิดทางลูกหนี้รายย่อยกู้ใหม่

04 พ.ย. 2568 | 07:27 น.
อัปเดตล่าสุด :04 พ.ย. 2568 | 07:36 น.

รัฐบาลเดินหน้าแก้หนี้เสียรายย่อย ผ่านกลไกบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) เริ่มเฟสแรกดูแลลูกหนี้รายย่อยต่ำกว่า 1 แสนบาท ครอบคลุมกว่า 2.3 ล้านบัญชี พร้อมปล่อยกู้ใหม่ให้กลับมาลืมตาอ้าปากได้ หวังพาคนติดหนี้กลับสู่ระบบการเงินอีกครั้ง

KEY

POINTS

  • กระทรวงการคลังใช้กลไกบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) เข้ามาบริหารจัดการหนี้เสียรายย่อย เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกหนี้กลับมาขอกู้สินเชื่อใหม่ได้
  • โครงการจะช่วยเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ให้ง่ายขึ้น เช่น ลดดอกเบี้ย ยกเว้นค่าธรรมเนียม และอาจจัดหาเงินกู้ใหม่เพื่อการดำรงชีพหรือประกอบอาชีพ
  • ระยะแรกมุ่งเป้าไปที่ลูกหนี้รายย่อยของธนาคารและสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่เป็นหนี้เสีย (NPL) ไม่มีหลักประกัน วงเงินรวมไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย
  • ลูกหนี้ที่โอนหนี้ไปยัง AMC จะได้รับรหัสพิเศษ "รหัส 16" ในข้อมูลเครดิตบูโร ทำให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อใหม่ได้เร็วขึ้นหากมีวินัยการชำระหนี้ดี

รัฐบาลเดินหน้าโครงการแก้ปัญหาหนี้เสียผ่านกลไกการซื้อหนี้รายย่อยของบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) เริ่มเฟสแรก ครอบคลุมลูกหนี้รายย่อยของธนาคารพาณิชย์ และบริษัทลูกรวมทั้งลูกหนี้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) ซึ่งเป็นหนี้เสีย หรือ NPLs ไม่มีหลักประกันรวมกันไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย รวม 2.36 ล้านบัญชี คิดเป็นภาระหนี้ประมาณ 62,400 ล้านบาท

จากนั้นจะมีการพิจารณาขยายขอบเขตการช่วยเหลือไปยังลูกหนี้ของผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร หรือ Non-banks ตามหลักการเดียวกัน ครอบคลุมลูกหนี้ 3.4 ล้านราย หรือ 4.76 ล้านบัญชี คิดเป็นภาระหนี้กว่า 122,000 ล้านบาท

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ประเด็นสำคัญในการจัดตั้ง AMC ขึ้นมาแก้ไขปัญหาหนี้รายย่อยครั้งนี้ ทาง AMC จะมีการออกแบบกระบวนการเจรจาหนี้ให้ลูกหนี้มีช่องทางเคลียร์หนี้ง่ายขึ้น รวมถึงการจัดวงเงินกู้ใหม่จากธนาคารรัฐ หรือ AMC หรือแหล่งเงินต่าง ๆ  เพื่อให้ลูกหนี้มีเงินเพียงพอในการดำรงชีพ หรือประกอบอาชีพเพิ่มเติม เพื่อจูงใจให้ลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการแก้ปัญหาหนี้ในระยะยาว

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการแก้หนี้รายย่อยเฟสแรกแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก

กลุ่มแรก จะโอนหนี้จากธนาคารพาณิชย์ บริษัทลูก และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) เข้าบริหารโดย บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (SAM) และ บริษัทบริหารสินทรัพย์อารีย์ (Ari-AMC) รวมกว่า 1.56 ล้านบัญชี มูลหนี้ 4.36 หมื่นล้านบาท โดยจะปรับโครงสร้างหนี้ให้เหมาะกับความสามารถของลูกหนี้ เช่น ลดดอกเบี้ย ยกเว้นค่าธรรมเนียม หรือชำระเพียงบางส่วนเพื่อปิดบัญชี

กลุ่มที่สอง เป็นลูกหนี้ของ SFIs อีกกว่า 7 แสนคน มูลหนี้ 1.88 หมื่นล้านบาท ที่จะได้รับการช่วยเหลือผ่านมาตรการเฉพาะของแต่ละธนาคาร เช่น การลดเงินต้น ยกเว้นดอกเบี้ย หรือผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระ

นายเอกนิติระบุว่า แนวทางนี้ถือเป็น “การแก้หนี้อย่างยั่งยืน” เพราะไม่เพียงช่วยลูกหนี้คลายภาระ แต่ยังเปิดโอกาสให้กลับมามีวินัยทางการเงินและเข้าถึงสินเชื่อใหม่ในอนาคต

ด้านนายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ปัจจุบันลูกหนี้รายย่อยที่มีหนี้ไม่เกิน 1 แสนบาท คิดเป็นกว่า ครึ่งหนึ่งของ NPL ทั้งระบบ หรือราว 4.76 ล้านบัญชี โดยโครงการนี้จะเริ่มจากเฟสแรกก่อน จำนวน 1.9 ล้านบัญชี มูลหนี้ราว 4.4 หมื่นล้านบาท ใช้เงินจากส่วนลดนำส่งกองทุน FIDF ภายใต้โครงการ “คุณสู้เราช่วย” โดยไม่ใช้งบประมาณของรัฐ

ขณะที่นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ลูกหนี้ที่โอนเข้ามาอยู่ภายใต้ AMC จะได้รับรหัสพิเศษ “รหัส 16” ในเครดิตบูโร ซึ่งช่วยให้สามารถกู้ใหม่ได้เร็วขึ้น หากมีวินัยชำระดีภายใน 1–6 เดือน ธนาคารสามารถพิจารณาปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ทันที