มีผลวันนี้ พ.ร.บ.รฟม. ฉบับใหม่ เปิดทางใช้ 'ตั๋วร่วม' เดินทางรถไฟฟ้า

08 พ.ย. 2568 | 03:48 น.
อัปเดตล่าสุด :08 พ.ย. 2568 | 03:54 น.

ราชกิจจานุเบกษา ประกาศ พระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 เปิดทางใช้ 'ตั๋วร่วม' เดินทางด้วยรถไฟฟ้า มีผลแล้วตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป

KEY

POINTS

  • พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 มีผลบังคับใช้แล้ว เพื่อปรับปรุงการให้บริการรถไฟฟ้าให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ
  • สาระสำคัญคือการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้ รฟม. สามารถใช้จ่ายเงินเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมได้
  • มีเป้าหมายเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถใช้ตั๋วใบเดียวเดินทางเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนได้อย่างต่อเนื่อง

ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา เผยแพร่ พระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 มีเนื้อหาว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา โดยพ.ร.บ.นี้ จะจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป

ทั้งนี้เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ ที่ผ่านมา พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2543 ใช้บังคับมาเป็นเวลานาน บทบัญญัติบางประการจึงไม่เหมาะสมกับ การจัดทำและการให้บริการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในปัจจุบัน สมควรปรับปรุงวัตถุประสงค์และอำนาจกระทำการ ตามวัตถุประสงค์ และการออกข้อบังคับของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการจัดทำและให้บริการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน 

รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย สามารถใช้จ่ายเงินเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมได้ อันจะเป็นประโยชน์แก่การพัฒนา ระบบขนส่งมวลชนของประเทศให้มีความต่อเนื่องเชื่อมโยงกันซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนใน การใช้ระบบขนส่งมวลชน และส่งเสริมให้ประชาชนใช้ระบบขนส่งมวลชนมากขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ในภาพรวมในระยะยาว จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

สำหรับสาระสำคัญของ พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 กำหนดไว้ในมาตรา 6 โดยให้เพิ่มความเป็นวรรคสองของมาตรา 9 แห่งพ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2543 ว่า “ในการดำเนินกิจการรถไฟฟ้าของ รฟม. และการดำเนินการของ รฟม. ในกรณีมีการบริหาร จัดการระบบตั๋วร่วมให้อยู่ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการนั้น”

ขณะที่ มาตรา 7 ให้ยกเลิกความใน (13) ของมาตรา 18 และให้ใช้ความว่า “(13) การกำหนดอัตราค่าโดยสาร ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมการใช้ทรัพย์สิน การให้บริการ และความสะดวกในกิจการรถไฟฟ้า ตลอดจนวิธีการจัดเก็บค่าโดยสาร ค่าบริการและค่าธรรมเนียมดังกล่าว และกำหนดประเภทบุคคลซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าโดยสาร”

มาตรา 8 ให้ยกเลิกความในมาตรา 65 และให้ใช้ความว่า “มาตรา 65 รายได้ที่ รฟม. ได้รับจากการดำเนินการในปีหนึ่ง ๆ ให้ตกเป็นของ รฟม. สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และเมื่อได้หักรายจ่ายสำหรับการดำเนินงานทั้งปวง ค่าภาระต่าง ๆ ที่เหมาะสม ค่าบำรุงรักษา ค่าเสื่อมราคา เงินสำรองตามมาตรา 11 เงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินสมทบกองทุนสงเคราะห์หรือการสงเคราะห์อื่น และเงินลงทุนตามที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เหลือเท่าใดให้นำส่งเป็นรายได้ของรัฐ ทั้งนี้ ตามระเบียบที่กระทรวงการคลังกำหนด

สำหรับรายจ่ายสำหรับการดำเนินงานตามวรรคหนึ่ง ให้รวมถึงเงินที่ รฟม. จ่ายเพื่อส่งเสริมและ สนับสนุนการดำเนินการในกรณีที่มีการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมในบริการขนส่งสาธารณะที่เกี่ยวข้อง กับกิจการรถไฟฟ้า ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการจ่ายและส่งเงินคืน ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรี ประกาศกำหนด โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี

ในกรณีที่รายได้ไม่เพียงพอสำหรับกรณีตามวรรคหนึ่ง นอกจากเงินสำรองตามมาตรา 11 และ รฟม. ไม่สามารถหาเงินที่อื่นได้ รัฐพึงจ่ายเงินให้แก่ รฟม. เท่าที่จำเป็นต่อการดำเนินงานของ รฟม.”

อ่านรายละเอียด : พระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568