‘บีโอไอ’ หนุนเงิน 50% ดันผู้ประกอบไทยยกระดับเทคฯเพิ่มความสามารถแข่งขัน

06 พ.ย. 2568 | 07:06 น.
อัปเดตล่าสุด :06 พ.ย. 2568 | 07:06 น.

‘บีโอไอ’ หนุนเงิน 50% ของการลงทุนและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ดันผู้ประกอบไทยยกระดับเทคโนโลยีเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

KEY

POINTS

  • บีโอไอออกมาตรการสนับสนุนเงินทุน 30-50% ของค่าใช้จ่าย (สูงสุด 100 ล้านบาท) เพื่อช่วยผู้ประกอบการไทยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
  • เงินทุนสนับสนุนครอบคลุมการลงทุน 3 ด้านหลัก ได้แก่ การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้, การวิจัยและพัฒนา (R&D) และการปรับเปลี่ยนสู่ธุรกิจใหม่หรืออุตสาหกรรมสีเขียว
  • ผู้มีสิทธิขอรับการสนับสนุนต้องเป็นนิติบุคคลที่มีหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 51% อยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย และต้องยื่นคำขอภายในเดือนมกราคม 2569

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ (BOI) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมายภายใต้บีโอไอ มีมติเห็นชอบมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และมาตรการสร้างบุคลากรทักษะสูงสำหรับอุตสาหกรรมยุคใหม่

ทั้งนี้ มาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันจะเป็นการให้เงินทุนสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการปรับปรุงประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยจะสนับสนุนเงินทุนในสัดส่วน 30-50% ของเงินลงทุนและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อบริษัท ครอบคลุมการลงทุนใน 3 ด้านหลัก ประกอบด้วย

  • การปรับปรุงประสิทธิภาพกิจการเดิมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น การใช้ระบบอัตโนมัติ และเทคโนโลยีดิจิทัล 
  • การวิจัยและพัฒนา (R&D) 
  • การปรับเปลี่ยนกิจการเดิมไปสู่อุตสาหกรรมใหม่และอุตสาหกรรมสีเขียว

‘บีโอไอ’ หนุนเงิน 50% ดันผู้ประกอบไทยยกระดับเทคฯเพิ่มความสามารถแข่งขัน

โดยผู้ยื่นขอใช้สิทธิตามมาตรการนี้ ต้องเป็นนิติบุคคลที่มีหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 51% ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ เกษตร อาหาร เทคโนโลยีชีวภาพ การแพทย์ ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ 

หากเป็นผู้ประกอบการทั่วไปมีเงื่อนไขลงทุนขั้นต่ำ 50 ล้านบาท แต่กรณีเป็นผู้ประกอบการ SMEs ที่ขึ้นทะเบียนในโครงการ SME ONE ID ของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ต้องลงทุนขั้นต่ำ 20 ล้านบาท

โดยต้องยื่นคำขอภายในเดือนมกราคม 2569 และดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 12 เดือน นับจากวันออกบัตรส่งเสริม

อย่างไรก็ดี เนื่องจากการให้เงินสนับสนุนจากกองทุนเป็นการเบิกจ่ายหลังจากที่ผู้ประกอบการได้ลงทุนตามเงื่อนไขแล้ว บีโอไอจึงร่วมกับสมาคมธนาคารไทยในการพัฒนาสินเชื่อในรูปแบบ Bridging Loan และกำหนดอัตราดอกเบี้ยพิเศษจากสถาบันการเงิน เพื่อเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการระหว่างรอการเบิกจ่ายด้วย