บพข.-เคพีแมนรุกพัฒนารถบรรทุกไร้คนขับต้นแบบคันแรกในไทย

03 พ.ย. 2568 | 05:00 น.
อัปเดตล่าสุด :03 พ.ย. 2568 | 05:00 น.

บพข.ผนึกเคพีแมนเดินหน้ารุกพัฒนารถบรรทุกไร้คนขับต้นแบบคันแรกในไทย มุ่ง ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรมเชิงพาณิชย์

KEY

POINTS

  • บพข. ร่วมมือกับ บมจ.เคมีแมน พัฒนารถบรรทุกไร้คนขับต้นแบบคันแรกของไทยโดยทีมนักวิจัยไทย
  • มีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนทางธุรกิจ เพิ่มความปลอดภัยในการทำงานในเหมือง และสร้างนวัตกรรมเพื่อลดการนำเข้าเทคโนโลยี
  • รถบรรทุกต้นแบบจะถูกนำไปทดลองใช้งานจริงในพื้นที่เหมืองของเคมีแมนที่ จ.สระบุรี เพื่อเก็บข้อมูลและพัฒนาต่อยอดในเชิงพาณิชย์

ผศ.ดร.กานดา บุญโสธรสถิตย์ ผู้อำนวยการ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการยกระดับส่งเสริมการใช้ประโยชน์ของผลงานวิจัยและนวัตกรรมในเชิงพาณิชย์ การพัฒนาแพลตฟอร์มทางนวัตกรรมในภาคการผลิต และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ภาคอุตสาหกรรม

โดยดำเนินการผ่านวิจัยและพัฒนารถบรรทุกขับเคลื่อนอัตโนมัติ หรือรถบรรทุกไร้คนขับที่พัฒนาโดยทีมนักวิจัยไทย และเป็นต้นแบบนวัตกรรมขนส่งแห่งอนาคตคันแรกของไทย

ซึ่งเป็นการดำเนินงานร่วมกับบริษัท เคมีแมน จำกัด (มหาชน) โดยมองว่าโครงการดังกล่าวไม่เพียงช่วยลดต้นทุนให้กับธุรกิจ ยังเน้นเพิ่มความปลอดภัยในการทำงานภายในเหมืองได้อย่างมาก 

อีกทั้งยังเป็นการสร้างนวัตกรรมขนส่งแห่งอนาคตที่พัฒนาโดยคนไทย ใช้ฝีมือและแรงงานคนไทย ลดการนำเข้าเทคโนโลยี 

และหากประสบความสำเร็จเกิดการใช้งานจริงในประเทศ อาจเป็นโอกาสสำคัญในการผลักดันให้สามารถขยายผลความสำเร็จสู่การส่งออกไปยังธุรกิจอื่นได้

ทั้งนี้ ตลาดรถบรรทุกไร้คนขับยังมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าภายในปี 2569 ตลาดรถบรรทุกไร้คนขับจะมีมูลค่าเพิ่มสูงถึงเกือบ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวสูงถึง 15% ต่อปีทั่วโลก 

ขณะที่ข้อมูลของกรมการขนส่ง พบว่าในปี 2566 ประเทศไทยมีรถบรรทุกตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก ประเภทรถบรรทุกส่วนบุคคล จำนวนรวมทั้งสิ้น 826,493 คัน เพิ่มขึ้น 0.43% ต่อปี 

แต่ยังไม่มีการใช้งานของรถบรรทุกไร้คนขับ ซึ่งคาดว่าตลาดรถบรรทุกที่ใช้ภายในพื้นที่ส่วนบริษัท โดยเฉพาะกลุ่มเหมืองแร่จะมีการใช้งานอยู่ประมาณ 4,000-5,000 คัน

ดร.อภิชัย สมบูรณ์ปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี บริษัท เคมีแมน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมีแนวคิดนำรถบรรทุกไร้คนขับมาใช้  ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการวิจัย พัฒนาและทดสอบ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการวิจัยและพัฒนา 16 เดือน โดยโครงการพัฒนารถบรรทุกไร้คนขับมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้งานเพื่อให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด ได้แก่ การติดตั้งไลดาร์ (Lidar) ที่เปรียบเหมือนตาของรถบรรทุก เป็นตัวสร้างแผนที่สามมิติของสภาพแวดล้อมด้านหน้า ติดตั้งเรดาร์ (Radar) ที่ทำหน้าที่สำรวจวัตถุต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะเข้ามาในบริเวณที่รถขับไป รวมถึง AI Camera ที่จะควบคุมตรวจสอบด้านความปลอดภัย ติดตามตำแหน่งของรถบรรทุกด้วย GPS และ IMU 

และปรับเปลี่ยนพวงมาลัยรถบรรทุกให้เป็น Drive by Wire เพื่อให้ขับเคลื่อนได้ด้วยอิเล็กทรอนิกส์ โดยรถบรรทุกไร้คนขับต้นแบบจะถูกนำไปทดลองใช้งานจริงในพื้นที่เหมืองและพื้นที่โดยรอบของเคมีแมนในอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เพื่อเก็บข้อมูลและพัฒนาต่อยอดเชิงพาณิชย์ต่อไป 

“ความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่ยุคใหม่ผ่านเทคโนโลยีและการวิจัยพัฒนาอย่างแท้จริง”