กระทรวงอุตฯรุกสกัดสินค้าด้อยคุณภาพทั่วไทย หลังเป็นภัยเงียบระบบเศรษฐกิจ

30 ต.ค. 2568 | 00:11 น.

กระทรวงอุตสาหกรรมเดินหน้าสกัดสินค้าด้อยคุณภาพทั่วไทย หลังทะลักเข้าไทย และเป็นภัยเงียบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ

KEY

POINTS

  • กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมมือกับสำนักงานอุตสาหกรรม 76 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเร่งปราบปรามสินค้าด้อยคุณภาพที่คุกคามความปลอดภัยและเศรษฐกิจ
  • จะใช้เครือข่ายเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจค้นและกวาดล้าง พร้อมดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดกับผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้จำหน่ายสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน
  • มีการบูรณาการกฎหมายระหว่าง สมอ. และกรมโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้ เช่น สั่งหยุดกิจการโรงงานที่ผลิตสินค้าไม่ได้มาตรฐาน

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า รัฐบาลและกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ความสำคัญกับการสร้างความมั่นคงให้กับภาคอุตสาหกรรม ควบคู่กับการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยทำงานร่วมกับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน และมาตรฐานอุตสาหกรรมเอส 

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีสินค้าด้อยคุณภาพจำนวนมากที่แฝงตัวอยู่ในท้องตลาด โดยเฉพาะสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศที่ทะลักเข้ามาในประเทศไทยซึ่งเป็นภัยเงียบที่คุกคามความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและระบบเศษฐกิจของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เหล็กเส้น ปลั๊กไฟ หรือ หมวกกันน็อกที่ไม่ได้มาตรฐาน 

อย่างไรก็ดี กระทรวงฯ จะใช้เครือข่ายเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด 76 จังหวัดลงพื้นที่ตรวจค้น กวาดล้างสินค้าไม่ได้มาตรฐานให้สิ้นซาก และจัดการขั้นเด็ดขาดกับผู้ผลิต ผู้จำหน่าย และผู้ลักลอบนำเข้าสินค้าไม่ได้มาตรฐาน โดยจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้กระทำผิดทุกราย

จ่าเอกยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า หน่วยงานที่รับผิดชอบการบังคับใช้กฎหมาย จะดำเนินการอย่างจริงจังตามนโยบายของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หากตรวจพบว่าผู้ประกอบการรายใด ไม่ว่าจะเป็นโรงงานผู้ผลิต หรือร้านจำหน่าย เอาเปรียบผู้บริโภค จำหน่ายสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน

กระทรวงอุตฯรุกสกัดสินค้าด้อยคุณภาพทั่วไทย หลังเป็นภัยเงียบระบบเศรษฐกิจ

และเป็นอันตรายต่อประชาชนจะสั่งหยุดทันทีโดยไม่มีข้อยกเว้น แต่ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการที่ปรับปรุงแก้ไขและปฏิบัติตามมาตรฐานที่ถูกต้องแล้ว ก็พร้อมจะปลดมาตรการทางกฎหมายโดยเร็ว หรือเปิดโอกาสให้กลับมาดำเนินธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นความยุติธรรมที่กระทรวงอุตสาหกรรมจะมอบให้ทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการที่ดี

นอกจากนี้ ยังเดินหน้าพัฒนายกระดับสินค้าและบริการของผู้ประกอบการ SMEs ให้ได้มาตรฐานอุตสาหกรรมเอส (มอก.เอส) หรือมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพให้เป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ สร้างโอกาสและความสามารถในการแข่งขันแก่ SMEs และผู้ผลิตในเศรษฐกิจฐานราก โดยการทำงานร่วมกัน ระหว่าง สมอ. และ สอจ. ทั้ง 76 จังหวัด จะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ก่อให้เกิดการพัฒนาด้านมาตรฐานอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน ปัญหาที่หมักหมมมานาน และจัดระเบียบอุตสาหกรรมอย่างจริงจัง โดยบูรณาการการบังคับใช้กฎหมายร่วมกัน ระหว่างกฎหมาย สมอ. และกฎหมายกรมโรงงานอุตสาหกรรม เช่น ในกรณีที่ผู้ได้รับใบอนุญาต มอก. แล้ว   แต่ผลิตสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน จะดำเนินการตามกฎหมายโรงงาน โดยสั่งให้หยุดประกอบกิจการโรงงานทั้งหมด

ตามมาตรา 39 วรรค 1 จนกว่าจะปรับปรุงแก้ไขให้แล้วเสร็จ หรือ กรณีตรวจสอบแล้วพบว่า ผู้ขอรับใบอนุญาต มอก.  มีการกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ สมอ. จะไม่ดำเนินการออกใบอนุญาต มอก. ให้ เป็นต้น เพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าด้อยคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ควบคู่ไปกับการยกระดับภาคการผลิตไทยสู่มาตรฐานสากล พัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการให้ได้มาตรฐาน สร้างความเชื่อมั่นใน ทุกระดับ ประชาชนสามารถเข้าถึงสินค้ามาตรฐานในราคาที่เป็นธรรม

นายเอกนิติ รมยานนท์ เลขาธิการ สมอ. กล่าวว่า สมอ. มีการบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่เป็นหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการคุ้มครองผู้บริโภค แต่การบูรณาการกับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดจะทำให้ สมอ. มีพันธมิตรในการทำงานทุกจังหวัด เข้าถึงทุกพื้นที่ ในประเทศ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคของ สมอ. ให้มากขึ้น