ถ้อยแถลง ‘อนุทิน’ บนเวที APEC 2025 ชู Thailand FastPass ดึงนักลงทุน

31 ต.ค. 2568 | 05:08 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ต.ค. 2568 | 05:14 น.

นายกฯ ‘อนุทิน’ กล่าวถ้อยแถลง บนเวที APEC 2025 ผลักดันเอเปคที่เปิดกว้าง ส่งเสริมการมีส่วนร่วม และมุ่งสู่อนาคต ชู Thailand FastPass ดึงนักลงทุน พร้อมขยายความร่วมมือกับเขตเศรษฐกิจนอกภูมิภาค

KEY

POINTS

  • นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC 2025) ที่สาธารณรัฐเกาหลี
  • เสนอโครงการ "Thailand FastPass" เพื่ออำนวยความสะดวกและดึงดูดนักลงทุนคุณภาพสูง
  • โครงการมุ่งเน้นการลงทุนในสาขาพลังงานสะอาด โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง

วันนี้ (31 ตุลาคม 2568) ที่เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 32 รอบที่ 1 (The 32nd APEC Economic Leaders’ Meeting – Session I) ภายใต้หัวข้อ “Towards a More Connected, Resilient Region and Beyond” พร้อมกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุม โดยมีสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความขอบคุณต่อประธานการประชุมและรัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลี สำหรับการต้อนรับและการจัดเตรียมการประชุมที่ยอดเยี่ยม พร้อมกล่าวต้อนรับการเข้าร่วมของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในฐานะแขกรับเชิญของประธาน และขอบคุณผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่ได้กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจโลกประจำปี 2025 โดยกล่าวอ้างถึงถ้อยคำของผู้อำนวยการ IMF ที่ระบุว่า “ความไม่แน่นอนคือความปกติใหม่” 

นายกรัฐมนตรี เห็นว่า ในยุคที่โลกเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน “ความร่วมมือไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นความจำเป็น” พร้อมย้ำว่า เอเปคต้องคงไว้ซึ่งความเปิดกว้าง การมีส่วนร่วม และมุ่งสู่อนาคต เพื่อสร้างภูมิภาคที่มีความเข้มแข็งและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การค้าเสรีและตลาดที่เชื่อมโยงกัน คือรากฐานของความมั่งคั่งที่ยั่งยืน ไทยสนับสนุนกรอบความร่วมมือที่ทันสมัย ครอบคลุม และตั้งอยู่บนกติกาสากล เพื่อให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะผู้ประกอบการธุรกิจ MSMEs ให้ได้รับประโยชน์จากการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค 

ขณะเดียวกัน การลงทุนควรเป็นแรงขับเคลื่อนทั้งด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน โดยไทยได้ดำเนินโครงการ Thailand FastPass เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนคุณภาพในสาขาพลังงานสะอาด โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อให้การเติบโตในวันนี้ช่วยรักษาโลกให้คนรุ่นต่อไป

 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 32 รอบที่ 1

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ภาคเอกชนคือกำลังหลักในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่อนาคต โดยการลงทุนในทรัพยากรมนุษย์ การเสริมสร้างทักษะด้านดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการปรับมาตรฐานดิจิทัลให้สอดคล้องกัน จะช่วยให้การค้าระหว่างเขตเศรษฐกิจมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และทั่วถึงมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ไทยได้รับแรงบันดาลใจจากความร่วมมือในกรอบเอเปค และได้เริ่มกระบวนการเข้าสู่การเป็นสมาชิก OECD เพื่อสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการยึดมั่นต่อมาตรฐานสากลและความร่วมมือระหว่างเขตเศรษฐกิจ 

ไทยยังมุ่งขยายความร่วมมือกับเขตเศรษฐกิจนอกภูมิภาค โดยในปีนี้ ไทยและจีนจะร่วมเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดความร่วมมือล้านช้าง–แม่โขง และในปีหน้า ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือเอเชีย (ACD Ministerial Meeting) และการประชุมประจำปีของ IMF และธนาคารโลก

 

การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 32 รอบที่ 1

 

“การประชุมเหล่านี้จะเป็นเวทีสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นระหว่างสมาชิกเอเปคและนอกเอเปค เพื่อร่วมกันรับมือกับความท้าทายและเปิดโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจ เอเปคสามารถร่วมกันสร้างภูมิภาคที่เชื่อมโยง เข้มแข็ง และยั่งยืนมากยิ่งขึ้น เพื่อประชาชนในวันนี้และคนรุ่นต่อไปในอนาคต” นายกฯ กล่าว