ดีพร้อมดันสินเชื่อดอกเบี้้ย 50 สตางค์หนุน SMEs รับออเดอร์ช่วงไฮซีซั่น

29 ต.ค. 2568 | 05:06 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ต.ค. 2568 | 05:06 น.

ดีพร้อมเดินหน้าดันสินเชื่อดอกเบี้้ย 50 สตางค์หนุน SMEs รับออเดอร์ช่วงไฮซีซั่นน มุ่งเป้าลูกหนี้ชั้นดีรายเดิม และลูกหนี้รายใหม่

KEY

POINTS

  • กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม) ออกสินเชื่อใหม่ "เงินไว by DIPROM" เพื่อเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการ SMEs และวิสาหกิจชุมชนสำหรับรองรับคำสั่งซื้อช่วงไฮซีซั่น
  • ให้วงเงินกู้สูงสุดรายละ 200,000 บาท ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 50 สตางค์ต่อเดือน หรือไม่เกินร้อยละ 6 ต่อปี
  • ผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี สามารถยื่นขอสินเชื่อได้ โดยมีระยะเวลาผ่อนชำระนานสูงสุด 2 ปี

นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการเร่งออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ เงินไว by DIPROM เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SMEs) ,วิสาหกิจชุมชน 

และผู้ประกอบการรายย่อย ในการเสริมสภาพคล่องและเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนให้กับธุรกิจ รองรับคำสั่งซื้อในรอบการขายตามฤดูกาล หรือได้รับคำสั่งซื้อจำนวนมากในช่วงที่ขายดี (HIGH SEASON) 

โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายลูกหนี้ชั้นดีรายเดิมและลูกหนี้รายใหม่ รายละไม่เกิน 2 แสนบาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 50 สตางค์ต่อเดือน ระยะเวลาชำระหนี้ไม่เกิน 2 ปี

ทั้งนี้ ช่วงปลายปีมีผู้ผลิต และผู้ประกอบการเอสเอ็มอี วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการรายย่อยจำนวนมาก จัดเตรียมสำรองวัตถุดิบเพื่อรองรับการผลิตตามคำสั่งซื้อที่จะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเทศกาล เช่น ขึ้นปีใหม่ ตรุษจีน วาเลนไทน์ สงกรานต์ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในการสำรองวัตถุดิบล่วงหน้า เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถผลิตสินค้าส่งได้ทันเวลาตามที่ระบุในใบคำสั่งซื้อ 

“สินเชื่อดังกล่าวเป็นการเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชนนำไปใช้ในการจัดซื้อวัตถุดิบรองรับการผลิต การจัดเตรียม หรือการเพิ่มสต็อกสินค้าให้พร้อมขาย สำหรับธุรกิจที่มีรอบการขายตามฤดูกาล หรือได้รับคำสั่งซื้อจำนวนมากในช่วงเทศกาลดังกล่าว ซึ่งถือเป็นหนึ่งในมาตรการผลักดันและกระตุ้นเศรษฐกิจของกระทรวงอุตสาหกรรม“

สำหรับคุณสมบัติของผู้ประกอบการที่ประสงค์ขอรับบริการสินเชื่อดังกล่าว ได้แก่ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการรายย่อยที่ประกอบอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมไทย มีการดำเนินธุรกิจมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ที่อยู่ในอุตสาหกรรมการผลิต หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องจากภาคการผลิต 

สามารถยื่นขอกู้วงเงินสูงสุดได้ไม่เกิน 200,000 บาท พร้อมใช้บุคคลค้ำประกัน หรือหนังสือรับรองตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ผ่อนชำระภายในระยะเวลา 2 ปี (24 งวด) ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษร้อยละ 50 สตางค์ต่อเดือน และสูงสุดไม่เกินร้อยละ 6 ต่อปี 

นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรายย่อยปรับตัวเข้าสู่กระบวนการ Digital Payment ผ่านโครงการคนละครึ่งพลัสของรัฐบาล โดยจะมุ่งเน้นการกระตุ้นสั้น แต่ได้ผลยาว พร้อมทั้งช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่คนในชุมชน