พาณิชย์ สั่งคุมราคาชุดดำทั่วประเทศ ตรวจเข้าโบ๊เบ๊-ออนไลน์ กันฉวยโอกาสขึ้นราคา

27 ต.ค. 2568 | 04:25 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ต.ค. 2568 | 04:30 น.

กรมการค้าภายใน จับตาราคาชุดดำทั่วประเทศ หลังความต้องการพุ่งสูงช่วงถวายความอาลัย ย้ำต้นทุนผ้ายังทรงตัว ขอผู้ค้าขายราคาตรงต้นทุน–ติดป้ายชัดทุกชิ้น พร้อมตรวจตลาด-ออนไลน์เข้ม หากพบฉวยโอกาสขึ้นราคาหรือกักตุน เจอโทษหนักทั้งจำทั้งปรับ

KEY

POINTS

  • กรมการค้าภายในสั่งคุมราคาชุดดำและเสื้อผ้าไว้ทุกข์ทั่วประเทศ ป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาหลังความต้องการของประชาชนเพิ่มสูงขึ้น
  • ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาทั้งในตลาดสำคัญอย่างโบ๊เบ๊ ร้านค้าทั่วไป และแพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าออนไลน์
  • ยืนยันต้นทุนวัตถุดิบและราคาส่งยังทรงตัว พร้อมเตือนผู้ค้าที่จำหน่ายราคาสูงเกินจริงหรือกักตุนสินค้าจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่ประชาชนทั่วประเทศร่วมถวายความอาลัย ทำให้ความต้องการจัดหาชุดดำและเสื้อผ้าโทนไว้ทุกข์เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว กรมการค้าภายในจึงได้เร่งติดตามสถานการณ์ด้านราคาและต้นทุนสินค้าอย่างใกล้ชิด 

ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาหรือจำหน่ายสินค้าเอาเปรียบผู้บริโภค พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และแพลตฟอร์มออนไลน์ ให้จำหน่ายสินค้าดังกล่าวในราคาที่เหมาะสม สอดคล้องกับต้นทุนจริง และต้องแสดงป้ายราคาชัดเจนทุกชิ้น ทุกช่องทาง เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบและเปรียบเทียบราคาก่อนตัดสินใจซื้อได้อย่างโปร่งใส

นายวิทยากร ระบุว่า จากการติดตามสถานการณ์ล่าสุด พบว่าต้นทุนวัตถุดิบสำหรับการผลิตเสื้อสีดำไม่มีการปรับเพิ่ม โดยผ้า TC ซึ่งใช้ในการผลิตเสื้อโปโลและผ้ายืด ยังคงมีราคาทรงตัวที่ประมาณ 40 บาทต่อหลา ขณะที่ผ้ายืดสำเร็จรูปอยู่ที่ 180–400 บาทต่อกิโลกรัม (หนึ่งกิโลกรัมผลิตเสื้อได้ประมาณ 3 ตัว) และมีปริมาณสต๊อกเพียงพอต่อความต้องการของโรงงานผู้ผลิต

ด้านการจำหน่ายสินค้าในตลาด พบว่าสินค้ามีเพียงพอต่อการรองรับความต้องการ โดยผู้ผลิตรายใหญ่และร้านค้าส่ง ยังคงราคาจำหน่ายส่ง อยู่ในช่วง 100–400 บาทต่อชิ้น ตามแบบ และคุณภาพของผ้า

ส่วนห้างค้าปลีก รายงานว่ายังไม่มีการปรับขึ้นราคา เสื้อคอกลมจำหน่ายที่ 199–299 บาท เสื้อโปโล 299–359 บาท และเสื้อเชิ้ตแขนยาว 399–499 บาท และพร้อมเตรียมจำหน่ายในโครงการคนละครึ่งในราคาสนับสนุนตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนในช่วงเวลาสำคัญ

อย่างไรก็ตาม กรมฯ ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนผ่านสายด่วน 1569 เกี่ยวกับร้านค้าจำหน่ายชุดดำในราคาสูงขึ้น 1 ราย ในพื้นที่ตลาดโบ๊เบ๊ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างเร่งด่วน พร้อมเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบตลาด ร้านค้าจำหน่ายเสื้อผ้า และช่องทางออนไลน์ทั่วประเทศ หากพบการกระทำผิดจะดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 

โดยกรณีไม่ปิดป้ายราคา มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท หากจำหน่ายในราคาที่สูงเกินสมควรหรือเอาเปรียบผู้บริโภค มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีกักตุนสินค้าเพื่อหวังผลกำไร มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

"กรมฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ประชาชนสามารถจัดหาชุดดำและเสื้อผ้าโทนไว้ทุกข์ได้ในราคาที่เป็นธรรม มีทางเลือกหลากหลายทั้งจากหน้าร้านและช่องทางออนไลน์ พร้อมสร้างความมั่นใจว่าประชาชนจะไม่ถูกเอาเปรียบจากสถานการณ์ปัจจุบัน"