ส.อ.ท.จ่อถก ธปท. 3 วาระร้อน ‘ค่าเงินบาท-การค้าโลก-หนี้ SMEs’

19 ต.ค. 2568 | 02:00 น.

ส.อ.ท.เตรียมถก 3 วาระร้อนกับ ธปท. ‘ค่าเงินบาท-การค้าโลก-หนี้ SMEs’ วันที่ 21 ต.ค. 68 มุ่งเพิ่มความสามารถแข่งขันในสภาวะเศรษฐกิจโลกผันผวน

KEY

POINTS

  • ส.อ.ท. เตรียมเข้าพบผู้ว่าการ ธปท. เพื่อหารือ 3 ประเด็นเร่งด่วนที่ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมไทย
  • เรียกร้องให้ ธปท. ดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาทที่แข็งค่าเกินจริง โดยเสนอระดับที่เหมาะสมที่ 34-35 บาทต่อดอลลาร์ เพื่อช่วยภาคการส่งออก
  • เสนอมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ประสบปัญหาหนี้สินและขาดสภาพคล่อง เช่น การปรับโครงสร้างหนี้ และการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ
  • หารือแนวทางรับมือผลกระทบจากสงครามการค้าและนโยบายภาษีของสหรัฐฯ โดยเน้นการกระจายตลาดส่งออกและปรับโครงสร้างการผลิต

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า วันที่ 21 ตุลาคม 2568 นี้ ส.อ.ท. จะประชุมหารือร่วมกับนายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อสร้างความร่วมมือเชิงรุกและกำหนดทิศทางการส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมไทยให้สามารถแข่งขันและเติบโตได้อย่างยั่งยืนในสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน

ทั้งนี้ วาระสำคัญที่ต้องจับตา โดยมุ่งเน้นไปที่ 3 ประเด็นหลักที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม ประกอบด้วย 

  • มาตรการรับมือผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ และสงครามการค้า ซึ่งจะโฟกัสในประเด็นผู้ประกอบการไทยกำลังเผชิญกับความเสี่ยงจากนโยบายการค้าที่เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ การหารือจะมุ่งเน้นการกำหนดมาตรการเชิงรุก เช่น การกระจายตลาดส่งออก, การเจรจาการค้า, และการปรับโครงสร้างการผลิตเพื่อลดผลกระทบ และแสวงหาโอกาสจากห่วงโซ่อุปทานที่ย้ายฐาน (Near-shoring)
  • มาตรการส่งเสริมสภาพคล่องทางการเงินและแก้ปัญหาหนี้ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SMEs) ซึ่งจะโฟกัสถึงปัญหาหนี้ครัวเรือนและหนี้ธุรกิจ SMEs ยังคงเป็นปัญหาเรื้อรังที่ฉุดรั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดย ส.อ.ท. จะนำเสนอแนวทางเพื่อให้ ธปท. พิจารณามาตรการช่วยเหลือด้านสภาพคล่องเพิ่มเติม, การปรับโครงสร้างหนี้ระยะยาว, และการเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ให้กับ SMEs ที่ได้รับผลกระทบ
  • ความกังวลต่อค่าเงินบาทที่แข็งค่า โดยเฉพาะค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างรวดเร็วและสวนทางกับสภาพเศรษฐกิจที่แท้จริง กำลังเป็นอุปสรรคสำคัญต่อภาคการส่งออกและท่องเที่ยว ส.อ.ท. จะเน้นย้ำถึงระดับอัตราแลกเปลี่ยนที่เหมาะสม (ที่ผู้ประกอบการเสนอว่าควรอยู่ที่ระดับ 34-35 บาท/ดอลลาร์) และเรียกร้องให้ ธปท. เข้ามาดูแลเสถียรภาพค่าเงินอย่างใกล้ชิด เพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกไทยเทียบกับคู่แข่งในภูมิภาค

“การประชุมครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีของการผนึกกำลังระหว่างภาคเอกชนและหน่วยงานกำกับดูแลการเงินระดับประเทศ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาเร่งด่วนที่กำลังเป็นภัยคุกคามต่อผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของประเทศ

นายเกรียงไกร กล่าวอีกว่า จะนำเสนอนโยบายการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมภายใต้กลยุทธ์ 4GO ซึ่งประกอบด้วย GO Digital & AI, GO Innovation, GO Global, และ GO Green โดยเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการยกระดับผู้ประกอบการไทยสู่มาตรฐานสากลและอุตสาหกรรมแห่งอนาคต