นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เปิดเผยถึงความคืบหน้ามาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน โดยเฉพาะหนี้เสียของกลุ่มรายย่อย ผ่านกลไกบริษัทบริหารสินทรัพย์ (Asset Management Company หรือ AMC)ว่า ถือเป็นมาาตรการเฉพาะจุด" ที่ธปท.กำลังทำงานร่วมกับกระทรวงการคลังและสมาคมธนาคารไทย
โดยจะแก้ไขหนี้ที่ต่ำกว่า 1 แสนบาท ใน 4 กลุ่มหลักคือ ธนาคารพาณิชย์ นอนแบงก์ที่เป็นบริษัทลูกธนาคารพาณิชย์ ธนาคารรัฐและนอนแบงก์ทั่วไป ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคน
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มดำเนินการประมาณ 2 ล้านคนจาก ธนาคารพาณิชย์ 7 แสนบัญชี นอนแบงก์ของธนาคารพาณิชย์ 8 แสนบัญชีและธนาคารรัฐอีก 8 แสนบัญชี ส่วนนอนแบงก์เดี่ยวๆนั้น จะเป็นอีกขั้นตอน เนื่องจากมีความซับซ้อนเรื่องลูกหนี้ แหล่งที่มาของเงินทุน
ส่วนแนวทางจะเป็นการบริหารผ่าน AMC ของรัฐ ที่มีกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (เอฟไอดีเอฟ) ถือหุ้นแห่งคือ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (SAM) จะถูกปรับบทบาทให้เป็น Social AMC ที่มีภารกิจหลักคือการ ช่วยเหลือประชาชน เป็นสำคัญ
ขณะที่บริษัทบริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ก็จะดำเนินการตามพันธกิจเดิม เพราะยังมีภาระที่ต้องรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ส่วนหนี้เสียของธนาคารรัฐ จะเป็นการโอนหนี้ไปที่อารีย์ เอเอ็มซี ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างธนาคารออมสินกับ BAM
หรับแหล่งเงินทุนที่จะใช้ในโครงการนี้มีความชัดเจนว่า จะใช้เงินที่เหลือจากโครงการคุณสู้ เราช่วยที่เป็นเงินกองกลาง ที่ธนาคารพาณิชย์ได้ร่วมกันนำส่ง จากการที่ธปท.ลดการนำส่งเงินเข้ากองทุนฟื้นฟูฯ จาก 0.46% ลงมาเหลือ 0.23% ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้สามารถดำเนินการได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแก้กฎหมาย
“เรื่องนี้ได้รือต่อเนื่องหลายครั้ง โดยมีการตั้งเป้าหมายว่า ภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ จะต้องมีข้อสรุปที่ชัดเจนในเรื่องโครงสร้างและรายละเอียดทั้งหมด เพื่อเตรียมนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.)ต่อไป”
ทั้งนี้ กระบวนการจะเริ่มต้นด้วยการที่สถาบันการเงินจะ ขายหนี้เสียในราคาถูก ให้แก่ AMC หลังจากนั้น AMC จะเข้าสู่กระบวนการ ปรับโครงสร้างหนี้ในลักษณะที่ผ่อนปรนอย่างมาก เพื่อช่วยให้ลูกหนี้กลุ่มนี้สามารถกลับมายืนได้และปลดหนี้ได้สำเร็จอย่างแท้จริง ธปท. เชื่อมั่นว่า การใช้มาตรการเฉพาะจุดที่พุ่งเป้าเช่นนี้จะมีประสิทธิผลสูงและสร้างแรงกระแทกเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม มีการเน้นย้ำว่า การช่วยเหลือนี้มุ่งเน้นที่ลูกหนี้ที่ เป็นหนี้เสียมาแล้วในอดีต และเสียประวัติไปแล้วระยะหนึ่งเท่านั้น เพื่อเป็นการ ป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเสียวินัยทางการเงิน กับคนในอนาคต