เปิด 24 รายการลดหย่อนภาษีปี 2568 รายการไหนจะหายไปบ้าง?

09 ต.ค. 2568 | 08:33 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ต.ค. 2568 | 08:33 น.

จับตา 24 รายการลดหย่อนภาษีปี 2568 รายไหนมีสิทธิ์เปลี่ยน หลังคลังจ่อออกกฎกระทรวงคุมยอดรวม ลดความเหลื่อมล้ำทางภาษี "เอกนิติ" ชงบอร์ดการเงินการคลัง พ.ย. 68 กำหนดเพดานรวมใหม่จัดระเบียบการใช้สิทธิ

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า กระทรวงการคลังกำลังศึกษาการปรับโครงสร้างการลดหย่อนภาษีครั้งใหม่ โดยมีเป้าหมายหลักคือ กำหนดเพดาน (Ceiling) ให้ชัดเจน เนื่องจากปัจจุบันรายการลดหย่อนภาษียัง "สะเปะสะปะมาก ไม่มีกรอบที่ชัดเจน" จึงต้องการกำหนดเพดานสูงสุด (ceiling) เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าในแต่ละปีจะมีเพดานรวมเท่าไหร่

การปรับโครงสร้างครั้งนี้ "ไม่น่าจะต้องแก้กฎหมายใหม่" เพราะเป็นการดำเนินการในระดับ กฎกระทรวง โดยจะมีการนำเข้าหารือในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐในช่วง เดือนพฤศจิกายน 2568 นี้ เพื่อหาข้อสรุป

สำหรับรายการลดหย่อนภาษีปี 2568 พบว่า มีทั้งหมด 24 รายการ 

 

ค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัวและครอบครัว มี 6  รายการ ประกอบด้วย

  1. ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท โดยไม่มีเงื่อนไข
  2. ค่าลดหย่อนคู่สมรส 60,000 บาท ต้องจดทะเบียนสมรสและคู่สมรสต้องไม่มีรายได้
  3. ค่าลดหย่อนฝากครรภ์และคลอดบุตรครรภ์ละไม่เกิน 60,000 บาท โดยจ่ายให้สถานพยาบาล (สิทธิลดหย่อนเป็นของภรรยา)
  4. ค่าลดหย่อนภาษีบุตร 30,000 บาท/คน (บุตรคนที่ 2 ขึ้นไปที่เกิดตั้งแต่ปี 61 ได้ 60,000 บาท/คน) บุตรตามกฎหมาย/บุตรบุญธรรม (มีเงื่อนไขเรื่องอายุและสถานะการศึกษา/ไร้ความสามารถ)
  5. ค่าลดหย่อนเลี้ยงดูบิดามารดาคนละ 30,000 บาท (สูงสุด 4 คน = 120,000 บาท) บิดามารดาต้องอายุ 60 ปีขึ้นไป และมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 30,000 บาท (ห้ามใช้สิทธิซ้ำซ้อนระหว่างพี่น้อง)
  6. ค่าลดหย่อนอุปการะผู้พิการ/ทุพพลภาพคนละ 60,000 บาท ผู้พิการมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี มีบัตรผู้พิการและหนังสือรับรองการอุปการะ

ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มประกัน เงินออม และการลงทุน  มี 11 รายการ

รายการในกลุ่มนี้มีหลายรายการที่ต้องระวัง เพดานรวมกัน เช่น กลุ่มวางแผนเกษียณรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท

  1. เงินประกันสังคมตามที่จ่ายจริง (สูงสุด 9,000 บาท)
  2. เบี้ยประกันชีวิตและประกันแบบสะสมทรัพย์สูงสุด 100,000 บาทคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป (รวมกับประกันสุขภาพไม่เกิน 100,000 บาท)
  3. เบี้ยประกันสุขภาพ และเบี้ยประกันอุบัติเหตุที่คุ้มครองสุขภาพสูงสุด 25,000 บาท(รวมกับประกันชีวิตฯ ต้องไม่เกิน 100,000 บาท)
  4. เบี้ยประกันสุขภาพของบิดามารดาสูงสุด 15,000 บาท บิดามารดามีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี
  5. เงินลงทุนธุรกิจ Social Enterpriseสูงสุด 100,000 บาท
  6. กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) 30% ของเงินได้ (สูงสุด 300,000 บาท) มีวงเงิน 2 ส่วน (ลงทุนใหม่/สับเปลี่ยน LTF)
  7. กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) 30% ของเงินได้ (สูงสุด 500,000 บาท) เป็นกลุ่มที่ต้องรวมกันกับรายการวางแผนเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
  8. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) / กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน 15% ของเงินได้ (สูงสุด 500,000 บาท)
  9. กองทุนบำเหน็จบำนาญราชการ (กบข.) 30% ของเงินได้ (สูงสุด 500,000 บาท)
  10. กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ตามที่จ่ายจริง (สูงสุด 30,000 บาท)
  11. เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ 15% ของเงินได้ (สูงสุด 200,000 บาท) คุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป

 

ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มเงินบริจาค มี 3 รายการ ประกอบด้วย 

  1. เงินบริจาคทั่วไปตามที่จ่ายจริง (สูงสุด 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อน)
  2. เงินบริจาคเพื่อการศึกษา การกีฬา การพัฒนาสังคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ และสถานพยาบาลของรัฐ 2 เท่าของเงินบริจาคจริง (สูงสุด 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อน)
  3. เงินบริจาคให้กับพรรคการเมืองสูงสุด 10,000 บาท

 

ค่าลดหย่อนกลุ่มกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ มี 4 รายการ ประกอบด้วย 

  1. Easy e-Receipt 2568 ไม่เกิน 50,000 บาท ค่าซื้อสินค้า/บริการที่มี e-Tax Invoice/e-Receipt ระหว่าง 16 ม.ค. – 28 ก.พ. 2568
  2. ค่าลดหย่อนติดตั้งโซล่าร์เซลล์ สำหรับที่อยู่อาศัยไม่เกิน 200,000 บาทจ่ายจริง (รอประกาศเป็นกฎหมาย)
  3. ดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อซื้อหรือสร้างที่อยู่อาศัยไม่เกิน 100,000 บาท
  4. ค่าสร้างบ้านใหม่ 2567-2568 ไม่เกิน 100,000 บาท 10,000 บาทต่อทุก 1 ล้านบาทของค่าก่อสร้าง (ตามสัญญาจ้าง 9 เม.ย. 67 – 31 ธ.ค. 68)