‘เอกนิติ’ สั่งปรับโครงสร้าง ‘ลดหย่อนภาษี’ ครั้งใหญ่ สรุปพ.ย.นี้

09 ต.ค. 2568 | 04:07 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ต.ค. 2568 | 04:34 น.

รองนายกฯ ‘เอกนิติ’ สั่งกระทรวงการคลังศึกษาปรับโครงสร้างการลดหย่อนภาษีครั้งใหญ่ เตรียมกำหนดเพดานให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น พร้อมเสนอบอร์ดการเงินการคลัง เดือนพ.ย.2568 นี้

KEY

POINTS

  • รองนายกฯ สั่งการกระทรวงการคลัง กำลังศึกษาการปรับโครงสร้างการลดหย่อนภาษีครั้งใหญ่ โดยจะกำหนดเพดานให้มีความชัดเจนมากขึ้น
  • หนึ่งในแนวทางที่พิจารณาคือการนำระบบบัญชีการออมส่วนบุคคล (ISA) มาใช้ เพื่อรวมทางเลือกการลงทุนให้มีความยืดหยุ่น
  • การปรับโครงสร้างการลดหย่อนภาษีครั้งนี้คาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนภายในเดือนพฤศจิกายน 2568

วันนี้ (9 ตุลาคม 2568) นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการศึกษาการปรับโครงสร้างการลดหย่อนภาษีครั้งใหม่ โดยเตรียมกำหนดเพดานให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น และจะนำเข้าไปหารือในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2568 นี้ เพื่อหาข้อสรุป

“ทุกวันนี้การลดหย่อนภาษี ยังสะเปะสะปะมาก ไม่มีกรอบที่ชัดเจน เราอาจจะต้องมี ceiling เพื่อทำให้ชัดว่า ในแต่ละปีจะมี ceiling เท่าไหร่ ล่าสุดได้มอบหมายให้ทีมทำการศึกษา และน่าจะทำได้พอสมควร โดบไม่ต้องแก้กฎหมายใหม่เพราะเป็นกฎกระทรวง” นายเอกนิติ ระบุ

นายเอกนิติ กล่าวว่า ตัวอย่างหนึ่งของการปรับโครงสร้างการลดหย่อนภาษีที่น่าสนใจคือข้อเสนอของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่มีการจัดทำระบบบัญชีการออมส่วนบุคคลในประเทศไทย Individual Saving Account (ISA) โดยมีทางเลือกให้ผู้ลงทุนตัดสินใจว่าต้องการลงทุนอะไร โดยไม่จำเป็นต้องออกผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อเนื่อง เพื่อลดปัญหาความซ้ำซ้อน

“ความตั้งใจคืออยากให้มารวมอยู่ในถังเดียว คนจะมีทางเลือก เช่นบางคนอยากลงทุนพันธบัตร บางคนลงในหุ้น บางคนลงทุนในต่างประเทศ ดังนั้นหากทำให้มีอิสระในการเลือกผลิตภัณฑ์ โดยที่ไม่ต้องไปเลือกอย่างในอดีตที่ผ่านมาก็เป็นแนวทางหนึ่งที่จะทำออกมา โดยในเดือนพฤศจิกายน นี้จะได้ข้อสรุป” รองนายกฯ กล่าว

ขณะที่การปรับปรุงแผนการคลังระยะปานกลาง รัฐบาลจะสร้างความโปร่งใสในเรื่องของการใช้จ่ายงบประมาณ โดยจะระบุที่มาของงบประมาณในการดำเนินโครงการต่าง ๆ ให้ชัดเจน อีกส่วนที่ต้องดำเนินการคือด้านรายได้ จะต้องพิจารณาว่าปัจจุบันมีส่วนไหนที่เป็นช่องโหว่

ขณะที่ด้านรายจ่าย จะพยายามมาใช้จ่ายเกินตัว เน้นไปที่การลงทุนมากขึ้น ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดนี้จะผลักดันให้ได้มากที่สุดภายในช่วง 4 เดือนนี้