KEY
POINTS
ในโลกของการบริหารราชการด้านเศรษฐกิจ การโยกย้ายตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงมักเป็นเครื่องสะท้อนถึงการปรับทิศทางนโยบายของรัฐบาลเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง
และในมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2568 การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงการคลังจำนวน 7 ตำแหน่ง ได้รวมถึงการแต่งตั้ง นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ จากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ที่เพิ่งเข้าทำงานได้เพียง 7 วัน ให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมศุลกากรคนใหม่
การก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดในหน่วยงานสำคัญด้านการจัดเก็บภาษีและกำกับดูแลการนำเข้าส่งออกของประเทศครั้งนี้ พบว่าเส้นทางอาชีพของนายพันธ์ทองที่สั่งสมมาอย่างยาวนานและหลากหลายภายในกรมศุลกากรเอง
นายพันธ์ทอง มีชื่อเล่นว่า "ขร" ปัจจุบันอายุ 47 ปี มีคุณวุฒิการศึกษาที่แสดงให้เห็นถึงพื้นฐานที่แข็งแกร่งและครอบคลุม โดยเริ่มจากการสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ก่อนจะต่อยอดความรู้ในระดับปริญญาโทด้าน Msc. Accounting and Management Science จาก University of Southampton, United Kingdom
นอกจากนี้ เขายังได้เข้ารับการฝึกอบรมในหลักสูตรระดับสูงหลายหลักสูตร ซึ่งแสดงถึงการเตรียมความพร้อมด้านยุทธศาสตร์และการบริหารจัดการ อาทิ หลักสูตร Director Accreditation Program (DAP) รุ่นที่ 189/2022 ของ IOD และหลักสูตรนักบริหารยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตระดับสูง (นยปส.) รุ่น 14
เส้นทางอาชีพของนายพันธ์ทองมีความเชื่อมโยงกับการคลัง เป็นอดีตหน้าห้องของ "นายประสงค์ พูนธเนศ" อดีตปลัดกระทรวงการคลัง สมัยที่นายประสงค์ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง
นอกจากนี้พันธ์ทองยังเติบโตมาในเส้นทางของกรมศุลกากรมาโดยตลอด เขาเคยดำรงตำแหน่งสำคัญในการปฏิบัติงานภาคสนาม
เช่น นายด่านศุลกากรแม่กลอง ในช่วงปี 2559 - 2560 และเป็น ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในช่วงปี 2560 - 2562
นอกจากนี้ยังเคยมีประสบการณ์ด้านการสืบสวนและปราบปรามในฐานะ ผู้อำนวยการส่วนประมวลข่าว สำนักสืบสวนและปราบปราม ในช่วงปี 2554 – 2559
ประสบการณ์เหล่านี้ได้นำไปสู่บทบาทในระดับบริหารที่สูงขึ้น โดยเขาเคยดำรงตำแหน่ง รองอธิบดีกรมศุลกากร ในช่วงปี 2562 - 2565 และควบตำแหน่ง ผู้บริหารเทคโนโลยีระดับสูงกรมศุลกากร (CIO) ในช่วงปี 2562 - 2563
ก่อนที่จะดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี กรมศุลกากร ในปี 2565 จนถึงปัจจุบันก่อนการแต่งตั้งล่าสุด
ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี นายพันธ์ทองได้มีบทบาทเป็น โฆษกกรมศุลกากร ด้วย บทบาทนี้ทำให้เขาเป็นผู้ที่สื่อสารสาธารณะในประเด็นสำคัญหลายครั้ง
ในช่วงที่ทำหน้าที่เป็นโฆษกกรมศุลกากร นายพันธ์ทองได้นำเสนอผลการปราบปรามการลักลอบนำเข้าและส่งออกสินค้าผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง เช่น การจับกุมยาเสพติดและสินค้าต้องห้ามอื่น ๆ
นอกจากนี้ เขายังมีบทบาทในการชี้แจงต่อกรณีที่เป็นประเด็นสาธารณะ เช่น ในเดือนกรกฎาคม 2566 กรณีดราม่าการประมูล "นาฬิกาปลอมเครื่องหมายการค้า" ของกรมศุลกากร โดยเขาได้แถลงต่อสาธารณะถึงข้อเท็จจริงที่ว่า กรมศุลกากรได้รับการยืนยันมาก่อนว่าเป็นของจริง และได้แสดงความยอมรับผิดต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้นอย่างจริงใจ พร้อมสั่งยกเลิกการประมูล เร่งคืนเงินแก่ผู้เข้าร่วมประมูลทั้งหมด และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เขายังระบุในเวลานั้นว่า มีการหารือถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบและกระบวนการประมูลเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต
ก่อนหน้าที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นอธิบดีกรมศุลกากรในเดือนตุลาคม 2568 นายพันธ์ทองเคยได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง มาก่อน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2568
การกลับมาสู่กรมศุลกากรในฐานะผู้นำสูงสุดในครั้งนี้ ว่ากันเป็นการนำผู้บริหารที่สั่งสมประสบการณ์ในทุกมิติ ทั้งปฏิบัติการ การสืบสวนปราบปราม และการวางแผนยุทธศาสตร์ กลับมาขับเคลื่อนกรมศุลกากร องค์กรสำคัญด้านรายได้ของประเทศต่อไป ที่ต้องติดตามว่าผลงานและการทำงานจะเป็นอย่างไร