KEY
POINTS
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2568 ได้มีมติเห็นชอบให้จัดตั้ง ‘ครม.เศรษฐกิจ’ หรือ คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และเตรียมจัดการประชุมนัดแรกในสัปดาห์หน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการจัดตั้ง ครม.เศรษฐกิจ ถือเป็นการรื้อฟื้นการประชุมดังกล่าวขึ้นมาอีกครั้งตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาและขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจที่สำคัญและเร่งด่วน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะนั่งเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจชุดนี้
ซึ่งคาดว่าจะมีการนัดประชุมทุกบ่ายวันจันทร์ เพื่อให้การตัดสินใจด้านเศรษฐกิจมีความต่อเนื่องและเป็นระบบ คาดว่าการประชุมครั้งแรกจะเริ่มได้ภายใน 2 สัปดาห์นี้ หรือตามมติล่าสุดคือจะมีการประชุมนัดแรกในสัปดาห์หน้า
วาระเร่งด่วนที่รอเข้าสู่การพิจารณา
รัฐบาลได้เดินหน้าเต็มสูบในการผลักดันนโยบายเร่งด่วนผ่าน ครม.เศรษฐกิจ สำหรับประเด็นสำคัญที่คาดว่าจะถูกนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจ ในเร็ว ๆ นี้ อาทิ
การดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาท
ก่อนหน้านี้ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าวว่าในการประชุม ครม. วันที่ 7 ตุลาคมนี้ จะมีการตั้ง ครม.เศรษฐกิจขึ้นมา โดยกระทรวงการคลังเตรียมเสนอให้ ครม.เศรษฐกิจ พิจารณาแนวทางการดูแลความผิดปกติของตลาดการเงินไทย ภายหลังพบว่าตัวเลขค่าความคลาดเคลื่อนสุทธิ (Net Errors and Omissions : NEO) ในบัญชีดุลการชำระเงินของไทยเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติจนกระทบกับค่าเงินบาท
นายเอกนิติได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อติดตามเส้นทางเงิน และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อตรวจสอบช่องทางที่ผิดปกติ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะต้องนำมาบูรณาการร่วมกันเพื่อนำเสนอมาตรการควบคุมต่อ ครม.เศรษฐกิจ
โฆษกรัฐบาลแถลงรายละเอียด ภารกิจ ครม.เศรษฐกิจ
ต่อมา นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยรายละเอียดว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบในหลักการการแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เสนอ โดยให้จัดทำเป็นคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีต่อไป
ทั้งนี้รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเกี่ยวกับนโยบายสำคัญด้านเศรษฐกิจที่จะเป็นการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของประเทศ ทั้ง
อย่างไรก็ตามการดำเนินการตามนโยบายข้างต้นรวมถึงโครงการพัฒนาอื่น ๆ ที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชน สมควรได้รับการพิจารณากลั่นกรองโดยละเอียดรอบคอบในทุกมิติจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ประกอบกับพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 มาตรา 5 บัญญัติให้คณะรัฐมนตรีจะแต่งตั้งคณะบุคคลประกอบด้วยรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและบุคคลอื่นที่มีความรู้ความชำนาญในเรื่องที่จะพิจารณา เพื่อพิจารณากลั่นกรองเรื่องใดก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีก็ได้
ดังนั้น เพื่อให้การบริหารราชการดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย เหมาะสม บรรลุเป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาล จึงเห็นควรมีการแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ รองนายกรัฐมนตรี (นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ) เป็นรองประธานกรรมการ และกรรมการอื่นอีก 28 ราย (เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นกรรมการและเลขานุการ)
มีอำนาจหน้าที่พิจารณากลั่นกรองเรื่องสำคัญในปัญหา ที่เกี่ยวพันหรือมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม ตามที่คณะรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีมอบหมาย ก่อนที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี ตลอดจนประเมิน วิเคราะห์ และเสนอแนะมาตรการหรือแนวทาง ตัดสินใจเชิงรุกในประเด็นที่เกี่ยวข้องเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี