KEY
POINTS
รัฐบาล 'นายอนุทิน ชาญวีรกูล' ประกาศยกระดับให้ 'น้ำดื่มสะอาด' ถูกบรรจุเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล ที่แถลงนโยบายดังกล่าวต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568
นโยบายน้ำดื่มสะอาดนี้จัดอยู่ในหมวดนโยบายด้านเศรษฐกิจ โดยมีเป้าหมายหลักในการ สร้างรายได้ ลดรายจ่าย ให้กับประชาชน
การลดภาระค่าใช้จ่ายที่รัฐบาลให้ความสำคัญนั้นครอบคลุมหลายด้าน เช่น ค่าพลังงาน ค่าโดยสาร และค่าผ่านทาง รวมถึง ค่าน้ำดื่มสะอาด
อาจจะบอกได้ว่า นโยบายน้ำดื่มสะอาด เป็นนโยบายเดิมของพรรคภูมิใจไทย ที่นายอนุทิน ผลักดันมาอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ยังดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร
เพราะก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 นายอนุทินได้มอบนโยบายและเปิดตัวรถผลิตน้ำสะอาด (Mobile Unit) ที่สวนสาธารณะและสวนพฤกษชาติ ศรีนครเขื่อนขันธ์ จังหวัดสมุทรปราการ
พร้อมกับเน้นย้ำว่า การมีน้ำดื่มสะอาดบริการประชาชนคือหนึ่งในนโยบายที่ให้ความสำคัญมาก โดยระบุว่าจะมีการ ติดตั้งเครื่องผลิตน้ำดื่มลักษณะ Mobile Unit ให้ถึงประชาชนทุกชุมชนที่มีความต้องการ การประปานครหลวงและการประปาส่วนภูมิภาค จะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อให้ประชาชนมีน้ำดื่มสะอาด
ท่ามกลางการเร่งผลักดันนโยบายน้ำดื่มสะอาด เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย การร้องเรียนของประชาชน รวมทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.) ก็สะท้อนปัญหาให้เห็นเป็นระยะถึงคุณภาพน้ำประปา
อย่างเช่นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2568 "ดร.ณัฐจิรา อิ่มวิเศษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จังหวัดนครราชสีมา ได้กล่าวในที่ประชุมสภาฯว่า ชาวบ้านโคกะพี้ หมู่ที่ 6 ตำบลค้างพลู อำเภอโนนไทย ต้องการขยายเขตน้ำประปา เนื่องจากบางครั้งน้ำไม่ไหล ไหลน้อย บางทีก็ไม่สะอาด และไม่เพียงพอต่อการใช้งานในหมู่บ้าน
ขณะที่ นายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคกล้าธรรม จังหวัดน่าน ได้รับการร้องเรียนจาก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองจัง ขอให้ การประปาส่วนภูมิภาค ขยายเขตประปา เพราะหมู่บ้านดังกล่าวขาดแคลนน้ำบริโภคและอุปโภค และเป็นหมู่บ้านที่กันดารน้ำ
ด้านความเห็นจาก "สภาองค์กรของผู้บริโภค" นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค ให้สัมภาษณ์กับฐานเศรษฐกิจ แสดงความเห็นด้วยกับนโยบายน้ำดื่มสะอาดของรัฐบาล
โดยระบุว่า ผู้บริโภคไม่ควรจะต้องซื้อน้ำกิน เพราะน้ำดื่มที่สะอาด ควรจะเป็นสิทธิพื้นฐานของประชาชน ปัจจุบัน ประชาชนยังต้องพึ่งพาน้ำจากขวดและต้องจ่ายเงินในราคาที่แพง ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่น้อย
"สภาผู้บริโภคจึงมีความเห็นว่า น้ำที่ออกมาจากท่อประปา หรือน้ำจากการประปาภูมิภาค ควรจะสามารถบริโภคได้เลย เราไม่ควรต้องเสียเงินกินน้ำ แต่ควรจะมีน้ำสะอาดถึงบ้านเรา" นางสาวสารี กล่าว
เลขาฯสภาผู้บริโภค ระบุว่า หากโครงการนี้เริ่มดำเนินการจริง ประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญมีสองส่วน คือ
"น้ำดื่มเป็นสินค้าควบคุม ห้ามขายเกิน 7 บาท แต่ตามสนามบินหรือร้านอาหารมักหลบเลี่ยงการควบคุมราคาโดยการขาย น้ำแร่ แทน" นางสาวสารี ระบุ