พาณิชย์ ยกร่างกฎหมายคุมเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV Charger ครั้งแรก

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมการค้าภายใน กำลังยกร่างกฎหมายใหม่ คือ ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เกี่ยวกับ เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV Charger เรื่อง กำหนดชนิด และลักษณะของบริภัณฑ์จ่ายไฟสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า รายละเอียดของวัสดุที่ใช้ผลิต อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด และอายุคำรับรอง เป็นครั้งแรก

ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้า ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันและมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากช่วยประหยัดพลังงาน ลดมลพิษ อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ส่งผลให้เครื่องชาร์จรถไฟฟ้า หรือ EV Charger เป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า และปัจจุบันจำนวนผู้ให้บริการสถานีชาร์จทั่วประเทศมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น 

ดังนั้นจึงควรมีหน่วยงานกลางเข้ามากำกับดูแลความถูกต้องเที่ยงตรงของเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้เครื่องมีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐาน อีกทั้งยังเป็นการคุ้มครองดูแลประชาชนผู้บริโภคให้ได้รับการชาร์จพลังงานไฟฟ้าเต็มจำนวนคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายที่เสียไป

สำหรับสาระสำคัญของร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ ฉบับนี้ ได้กำหนดชนิด และลักษณะของบริภัณฑ์จ่ายไฟสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า รายละเอียดของวัสดุที่ใช้ผลิต อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด และอายุคำรับรอง อ้างอิงมาตรฐาน OIML G22 : Electric Vehicle Supply Equipment (EVSE) ดังนี้ 

กำหนดคำนิยาม “บริภัณฑ์จ่ายไฟสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า” (Electric Vehicle Supply Equipment : EVSE) หมายความว่า อุปกรณ์ที่ติดตั้งมาตรวัดพลังงานไฟฟ้า หรือไม่ได้ติดตั้งมาตรวัดพลังงานไฟฟ้า ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างแหล่งจ่ายพลังงานไฟฟ้ากับยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อส่งพลังงานไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายพลังงานไฟไปยังแบตเตอรี่ของยานยนต์ไฟฟ้า ไม่รวมถึงบริภัณฑ์จ่ายไฟสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าสำหรับใช้งานส่วนบุคคล (Private EVSE) ที่ไม่ได้ใช้ในเชิงพาณิชย์

กำหนดชนิดของบริภัณฑ์จ่ายไฟสำหรับยานยนต์ไฟฟ้ามี 2 ชนิด คือ 1.บริภัณฑ์จ่ายไฟสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าแบบกระแสสลับ (AC EVSE) และ 2.บริภัณฑ์จ่ายไฟสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC EVSE)
 

ทั้งนี้ต้องมีที่สำหรับผนึกเพื่อป้องกันการแก้ไข ดัดแปลง หรือซ่อมแซมหลังจากตรวจรับรอง โดยจะดำเนินการดังกล่าวได้ก็ต่อเมื่อทำลายผนึกก่อน 

หากมีโปรแกรมที่ใช้กับบริภัณฑ์จ่ายไฟสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า โปรแกรมดังกล่าวต้องไม่ทำให้ความเที่ยงของบริภัณฑ์จ่ายไฟสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าคลาดเคลื่อนเกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด หรือแสดงค่า พิมพ์ค่า คำนวณหรือบันทึกค่าผลการวัดคลาดเคลื่อนเกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดหลังจากตรวจสอบให้คำรับรอง 

พร้อมจัดให้มีวิธีการป้องกันการแก้ไขหรือปรับแต่งหรือดัดแปลงโปรแกรมด้วยวิธีผนึกทางกล (mechanical seal) หรือวิธีผนึกทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic seal เช่น Audit trail) หรือทั้งสองวิธีควบคู่กัน

อีกทั้งยังกำหนดต้องมีส่วนแสดงค่าหลัก หรือส่วนแสดงค่าเสริม (แอพพลิเคชั่น) บนอุปกรณ์อื่นๆ โดยต้องแสดงผลการวัดได้ทันที โดยแสดงหน่วยวัดบนส่วนแสดงค่าพร้อมตัวเลข

ส่วนแสดงค่าต้องแสดงชื่อหรือสัญลักษณ์ของหน่วยที่ใช้ในการวัด เป็นหน่วยกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) และบริภัณฑ์จ่ายไฟสำหรับยานยนต์ไฟฟ้ากระแสสลับ (AC EVSE) ต้องสามารถแสดงผลการวัด โดยมีค่าความละเอียดดีกว่า 0.0001 kWh (0.1 Wh) และบริภัณฑ์จ่ายไฟสำหรับยานยนต์ไฟฟ้ากระแสตรง (DC EVSE) ต้องสามารถแสดงผลการการวัด โดยมีค่าความละเอียดดีกว่า 0.001 kWh (1.0 Wh) 

ขณะที่ตัวประกอบกำลังไฟฟ้า (Power factor : PF) ของบริภัณฑ์จ่ายไฟสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าต้องมีค่ามากกว่า 0.9 ส่วนอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดสำหรับการให้คำรับรองชั้นแรกและการให้คำรับรองชั้นหลังของบริภัณฑ์จ่ายไฟสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ให้มีทั้งฝ่ายมากและฝ่ายน้อยตามประกาศ รวมทั้งกำหนดอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดสำหรับการตรวจสอบบริภัณฑ์จ่ายไฟสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าเมื่อใช้งานแล้ว ให้มีทั้งฝ่ายมากและฝ่ายน้อยตามประกาศ

นอกจากนี้ยังกำหนดให้บริภัณฑ์จ่ายไฟสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า มีอายุคำรับรอง คือ 1.บริภัณฑ์จ่ายไฟสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าที่ติดตั้งมาตรวัดพลังงานไฟฟ้า มีอายุคำรับรองสองปีนับแต่วันที่ให้คำรับรอง และ 2.บริภัณฑ์จ่ายไฟสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ได้ติดตั้งมาตรวัดพลังงานไฟฟ้า มีอายุคำรับรอง

ทั้งนี้บรรดาบริภัณฑ์จ่ายไฟสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าซึ่งผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ขาย ผู้ซ่อม หรือผู้ครอบครองได้ครอบครองอยู่ในวันก่อนประกาศนี้ใช้บังคับ ให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ขาย ผู้ซ่อม หรือผู้ครอบครองดำเนินการเปลี่ยนหรือปรับปรุงบริภัณฑ์จ่ายไฟสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าให้เป็นไปตามประกาศฉบับนี้ และนำบริภัณฑ์จ่ายไฟสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าดังกล่าวมาให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพื่อให้คำรับรอง