ถ่ายทอดสด live แถลงนโยบายรัฐบาลอนุทิน ต่อรัฐสภา วันแรก 29 ก.ย. 68

29 ก.ย. 2568 | 01:18 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ก.ย. 2568 | 01:38 น.

Live ดูถ่ายทอดสด รัฐบาลอนุทินแถลงนโยบายรัฐบาล 2568 ต่อรัฐสภา ชูโครงการคนละครึ่งพลัส ลดค่าครองชีพ-แก้หนี้ 1 แสนบาท. ประชามติยกเลิก MOU กัมพูชา

KEY

POINTS

  • Live ถ่ายทอดสดนายกรัฐมนตรี อนุทิน นำคณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 กันยายน 2568
  • รัฐบาลชูนโยบาย "4 เดือน 4 ภารกิจหลัก" เพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วน 4 ด้าน คือ เศรษฐกิจ ความมั่นคง สังคม และสิ่งแวดล้อม
  • นโยบายเด่น ได้แก่ โครงการ "คนละครึ่งพลัส" แก้หนี้ประชาชน ปราบปรามยาเสพติดและการพนัน และทำประชามติยกเลิก MOU ไทย-กัมพูชา
  • รัฐบาลชุดนี้มีกรอบเวลาทำงาน 4 เดือน โดยนายกฯ ประกาศจะยุบสภาภายในสิ้นเดือน ม.ค. 69 เพื่อจัดเลือกตั้งใหม่

วันนี้ (29 ก.ย. 2568) จะมีการถ่ายทอดสด นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาเป็นวันแรก 

โดยการประชุมร่วมกันของรัฐสภามีขึ้นเป็นเวลา 2 วัน คือวันที่ 29-30 กันยายน 2568 และจะเริ่มประชุมในเวลา 09.00 น.

นายอนุทินได้เปิดเผยความพร้อมในการแถลงนโยบาย โดยระบุว่าได้ส่งร่างนโยบายให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว และยืนยันว่าตนจะอยู่ในการประชุมตลอดทั้ง 2 วันจนเลิกประชุม เพื่อเป็นการให้เกียรติสมาชิกรัฐสภา

ทั้งนี้ รัฐบาลชุดนี้มีกำหนดเวลาในการทำงานที่จำกัดเพียง 4 เดือน โดยนายอนุทินเคยลั่นวาจาว่าจะยุบสภาภายในสิ้นเดือนมกราคม 2569 และจัดให้มีการเลือกตั้งภายในเดือนมีนาคม หรืออย่างช้าที่สุดเดือนเมษายน 2569

เป้าหมายหลัก 4 เดือน 4 ภารกิจ

รัฐบาลอนุทินกำหนดเป้าหมายการบริหารประเทศในช่วง 4 เดือนนี้ภายใต้แคมเปญ "4 เดือน 4 ภารกิจหลัก" ซึ่งเน้นการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภัย 4 ด้าน ได้แก่ ภัยด้านเศรษฐกิจ ภัยด้านความมั่นคง ภัยด้านสังคม และภัยด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

นโยบายหลักที่นายกรัฐมนตรีนำมาแถลง มีโครงสร้างเป็น 5 กรอบ 15 นโยบาย ซึ่งทั้งหมดถือเป็นนโยบายเร่งด่วน โดยมีสาระสำคัญดังนี้

ด้านเศรษฐกิจ

มุ่งเน้นการสร้างรายได้และลดรายจ่าย รวมถึงการลดค่าครองชีพและลดรายจ่ายในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยมีโครงการสำคัญคือ "คนละครึ่งพลัส" และ "คนละครึ่ง" เพื่อให้ประชาชนมีกำลังจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีนโยบาย แก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชนรายละไม่เกิน 1 แสนบาท และเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs รายละไม่เกิน 1 ล้านบาท

ด้านความมั่นคง

เน้นการใช้มาตรการทางทหารควบคู่กันกับการทูตเพื่อรักษาอธิปไตย โดยเฉพาะการ เร่งแก้ไขปัญหากรณีพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชา โดยใช้แนวทางสันติภาพควบคู่กับการป้องกันประเทศที่เข้มแข็ง

และที่สำคัญคือจะมีการ ทำประชามติเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพิจารณาตัดสินใจให้ความเห็นต่อการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างไทย-กัมพูชา 

ด้านสังคม

มีนโยบายในการ ปราบปรามยาเสพติด และ ปราบปรามการพนันผิดกฎหมายทุกรูปแบบอย่างจริงจัง รัฐบาลจะไม่สนับสนุนให้มีการประกอบธุรกิจการพนันทุกชนิดให้ถูกกฎหมาย รวมถึงเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มีธุรกิจการพนัน

นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการปราบปรามเครือข่าย สแกมเมอร์ (Scammer) และอาชญากรรม และให้ความสำคัญกับการรักษาหลักนิติธรรมอย่างเคร่งครัด รวมถึงการขจัดทุจริตและประพฤติมิชอบ

ด้านภัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

เน้นการปรับปรุงระบบเตือนภัย เร่งติดตั้งเครื่องมือเตือนภัยพิบัติ และพัฒนาเครือข่ายในพื้นที่เสี่ยงสูง พร้อมทั้งผลักดันการ ประกาศให้ไทยบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 (ค.ศ. 2050)

กรอบเวลาและยุทธศาสตร์ฝ่ายค้าน

การแถลงนโยบายกำหนดไว้ 2 วัน คือวันที่ 29-30 กันยายน โดยมีการจัดสรรเวลาอภิปรายจากวิป 3 ฝ่ายดังนี้

  • คณะรัฐมนตรีและ ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาล: 6 ชั่วโมง (ไม่รวมเวลานายกรัฐมนตรีแถลง)
  • สมาชิกวุฒิสภา (สว.): 3 ชั่วโมง
  • พรรคการเมืองฝ่ายค้าน: 15 ชั่วโมง
  • ประธานในที่ประชุม: 1 ชั่วโมง

พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะฝ่ายค้านอิสระ ได้วางยุทธศาสตร์การอภิปรายในชื่อ "4 เดือนยุบคดี - 4 หายนะ" โดยจะตรวจสอบเรื่องสำคัญต่าง ๆ เช่น ที่ดินเขากระโดง, คดีฮั้ว สว., เหตุการณ์ถนนยุบที่ถนนสามเสน, และชี้ถึงหายนะ 4 ด้าน

ได้แก่ การขาดโอกาส, ขาดคนมีฝีมือ (ซึ่งระบุว่าเป็นรัฐบาลนอมินีบุรีรัมย์), ขาดความโปร่งใส, และขาดอนาคตประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทยได้รับเวลาอภิปราย 6 ชั่วโมง

พรรคประชาชน (ปชน.) วางแผนอภิปรายในหัวข้อ "นับถอยหลังยุบสภา เดินหน้าประชามติรัฐธรรมนูญ" โดยจะตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้นในประเด็นเศรษฐกิจ, ความมั่นคงชายแดน, การแทรกแซงคดีสำคัญ, และ คุณสมบัติของรัฐมนตรีที่ไม่เหมาะสมในการดำรงตำแหน่ง 

โดยมีการแย้มข้อมูลว่ามีรัฐมนตรีที่มีคดีอยู่ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พรรคประชาชนและพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่น ๆ ได้เวลาอภิปรายรวม 9 ชั่วโมง

ช่องทางรับชมถ่ายทอดสด