‘ธนกร-จ่าเอกยศสิงห์’ ถือฤกษ์เข้ากระทรวงอุตสาหกรรมพรุ่งนี้

25 ก.ย. 2568 | 12:04 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ก.ย. 2568 | 12:07 น.

‘ธนกร วังบุญคงชนะ’-‘จ่าเอกยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ’ 2 รมว.อุตสาหกรรมถือฤกษ์เข้ากระทรวงพรุ่งนี้ หลังถวายสัตย์ปฏิญาณตน

KEY

POINTS

  • นายธนกร วังบุญคงชนะ และจ่าเอกยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มีกำหนดเข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ (26 ก.ย.)
  • มีภารกิจสำคัญที่รอการสานต่อ คือการผลักดันร่างกฎหมายหลายฉบับ เช่น พ.ร.บ. การจัดการกากอุตสาหกรรม, พ.ร.บ. โรงงาน และ พ.ร.บ. มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.)
  • ต้องเร่งส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ เพื่อดึงดูดการลงทุนและพัฒนาห่วงโซ่อุปทานในประเทศ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนเป็นที่เรียบร้อย 

ภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งครม.ชุดใหม่ เพื่อบริหารราชการแผ่นดิน

ขณะที่ รมว. แต่ละกระทรวงต่างก็เริ่มทยอยเดินทางเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามฤกษ์ของตนเอง เพื่อเป็นสิริมงคลในการทำงาน

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และจ่าเอกยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม  มีกำหนดการเจ้ากระทรวงอย่างเป็นทางการวันพรุ่งนี้ (26 ก.ย. 68) ตั้งแต่เวลา 09.09-10.00 น.

จากการตรวจสอบของ “ฐานเศรษฐกิจ” เกี่ยวกับงานที่ค้างคาของกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งไม่แน่ชัดว่ารมว. และรมช. อุตสาหกรรมคนใหม่จะดำเนินการสานต่อหรือไม่ ประกอบด้วย

  • ผลักดันร่างพระราชบัญญัติการจัดการกากอุตสาหกรรมฉบับใหม่ เพื่อแก้ไขปัญหาการลักลอบทิ้งกากของเสียที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ และยกระดับการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมทั้งระบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้จะเป็นกฎหมายฉบับแรกที่มุ่งจัดการกากอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ เพื่ออุดช่องโหว่ของกฎหมายเดิม คือ 1) การเพิ่มบทลงโทษ มีการพิจารณาเพิ่มบทลงโทษที่รุนแรงขึ้นสำหรับผู้กระทำผิด ไม่ว่าจะเป็นโรงงานเถื่อนหรือกลุ่มทุนสีเทาที่ลักลอบทิ้งกากพิษ 2) มาตรการป้องกัน เน้นมาตรการเชิงป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นซ้ำรอยเดิม โดยอาจรวมถึงการจัดตั้งกองทุนเพื่อการจัดการกากอุตสาหกรรมด้วย
  • ร่าง พ.ร.บ. โรงงาน ที่มีการพิจารณาแก้ไข เพื่ออำนวยความสะดวก ในการประกอบกิจการมากขึ้น เช่น การยกเลิกหรือลดขั้นตอนการขออนุญาตที่ไม่จำเป็น เพื่อลดภาระและเพิ่มความคล่องตัวให้กับผู้ประกอบการ
  • การส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) โดยเน้นการผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ที่มีเป้าหมายในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) ในประเทศให้แข็งแกร่งขึ้น
  • ร่าง พ.ร.บ. มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) เพื่อป้องกันการนำเข้าสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานและทุ่มตลาดในประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs นอกจากนี้ ยังมีแนงคิดในการจัดตั้งกองทุนเพื่อการปฏิรูปอุตสาหกรรม เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน