จับท่าที 'เขากระโดง' รัฐบาลอนุทินประกาศชัดไม่ใช่ 'มวยล้มต้มคนดู'

12 ก.ย. 2568 | 22:01 น.

ประมวลท่าทีรัฐบาลอนุทิน ปมร้อน 'เขากระโดง' หลัง 'พิพัฒน์ รัชกิจประการ' ว่าที่รมว.คมนาคม ประกาศชัด เป็นภารกิจแรกหลังนั่งเก้าอี้ มั่นใจไม่ใช่มวยล้มต้มคนดู ด้าน 'อนุทิน' ลั่น อะไรเป็นของรัฐ ก็ต้องเป็นเป็นของรัฐ

KEY

POINTS

  • นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประกาศให้การแก้ปัญหาข้อพิพาทที่ดินเขากระโดงเป็นภารกิจเร่งด่วนอันดับแรก
  • รัฐบาลอนุทินยืนยันว่าจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจังและโปร่งใส ไม่ใช่ "มวยล้มต้มคนดู" เพื่อสร้างความกระจ่างให้ประชาชน
  • พรรคภูมิใจไทยซึ่งกำกับดูแลทั้งกระทรวงคมนาคมและมหาดไทยที่เกี่ยวข้องกับข้อพิพาทโดยตรง มองว่าเป็นโอกาสดีในการคลี่คลายปัญหา
  • มีแผนสั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เริ่มดำเนินการทางกฎหมายกับที่ดินพิพาทภายใน 4 เดือนแรกของรัฐบาล

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สร้างความฮือฮาเมื่อประกาศอย่างชัดเจนว่า ภารกิจเร่งด่วนอันดับแรก ภายหลังเข้ารับตำแหน่ง คือการเข้าคลี่คลายปัญหาข้อพิพาทที่ดินเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นประเด็นที่คนไทยยังคงคาใจมาอย่างยาวนาน

โดยยืนยันหนักแน่นว่าจะดำเนินการอย่างโปร่งใส จริงจัง และที่สำคัญที่สุดคือ "ไม่ใช่เรื่องมวยล้มต้มคนดูอย่างแน่นอน"

พร้อมรับประกันว่าคนไทยจะต้องได้รับความกระจ่าง แม้พรรคภูมิใจไทยจะเข้ามาบริหารทั้งสองกระทรวงที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับกรณีพิพาทนี้ก็ตาม

เปิดปมที่ดิน "เขากระโดง" ข้อพิพาทข้ามกระทรวง

กรณีพิพาทที่ดินเขากระโดงเป็นประเด็นความขัดแย้งที่สำคัญระหว่าง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคม และ กรมที่ดิน ซึ่งอยู่ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย

ที่ดินพิพาทดังกล่าวมีเนื้อที่รวมกว่า 5,083 ไร่ ในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีการกล่าวถึงว่ามี 12 แปลง (ประมาณ 288 ไร่) ที่มีชื่อเครือข่ายธุรกิจ "บ้านใหญ่บุรีรัมย์" เข้าไปถือหุ้นอยู่ นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้ถือครองที่ดินกว่า 995 แปลง และ 12 หน่วยงานราชการที่มีที่ตั้งในพื้นที่พิพาทนี้ด้วย

การรถไฟฯ อ้างสิทธิ์ในการได้มาซึ่งที่ดินตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสร้างทางรถไฟ พ.ศ. 2464 และได้มีการแจ้ง ส.ค.1 เลขที่ 1180 เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2498 ซึ่งเป็นการแสดงการครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ (1 ธันวาคม 2497) เนื่องจากไม่มีหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน จึงได้ไปแจ้งการครอบครองต่อนายอำเภอเมืองบุรีรัมย์เพื่อเป็นพยานหลักฐาน

"พิพัฒน์" ลั่นพร้อมชน เพื่อชาติ ไม่สนกระแส

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนวันที่ 11 ก.ย.68 ว่า สิ่งแรกที่จะดำเนินการทันทีภายหลังเข้าทำงานคือการ หารือกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วย

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ

เชื่อว่าการที่พรรคภูมิใจไทยได้กำกับดูแลทั้งสองกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ ไม่ใช่สิ่งที่น่ากังขา แต่กลับเป็น "โอกาสอันดี" ที่จะทำให้เรื่องที่ค้างคาใจได้รับการคลี่คลาย

นายพิพัฒน์ย้ำว่าเรื่องนี้เป็น "เรื่องของชาติ" ไม่ใช่เรื่องของพรรค และจะต้องทำให้เกิดความกระจ่างว่าที่ดินทั้ง 900 กว่าแปลงนี้ควรดำเนินการอย่างไร หากการรถไฟฯ สามารถฟ้องร้องเป็นรายแปลงได้ ก็จะรีบดำเนินการทันที แม้จะยังไม่แน่ใจว่าระยะเวลา 4 เดือนของรัฐบาลจะเพียงพอต่อการนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายให้แล้วเสร็จหรือไม่ แต่จะให้การรถไฟฯ เริ่มดำเนินการทันทีใน 4 เดือนนี้

"ยืนยันว่าไม่กังวลว่าจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ หากผลลัพธ์ที่ได้คือความกระจ่างตามกฎหมาย และได้ยืนยันหนักแน่นอีกครั้งว่าสิ่งที่กำลังจะทำนี้ ไม่ใช่มวยล้มต้มคนดูอย่างแน่นอน"

'อนุทิน' ลั่นอะไรเป็นของรัฐ ก็ต้องเป็นเป็นของรัฐ

ทั้งนี้ ก่อนหน้า นายภูมิธรรม เวชยชัย เคยกล่าวถึงกรณีเขากระโดงว่า "ถ้าเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เขากระโดง ก็จะหายไปตลอดเวลา และหายไปตลอดกาล" ซึ่งนายอนุทินได้ยืนยันว่าทุกอย่างจะทำตามกฎหมาย

จับท่าที 'เขากระโดง' รัฐบาลอนุทินประกาศชัดไม่ใช่ 'มวยล้มต้มคนดู'

ด้าน นายอนุทิน ตอบกลับทันทีว่า ขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจ อะไรเป็นของรัฐ ก็ต้องเป็นเป็นของรัฐ แต่ขอให้ทำตามกฏหมาย แต่อย่ามายัดเยียด หรือมาปรุงแต่งเหมือนที่เขาทำกันมา ส่วนเรื่องที่จะมีการเพิกถอนที่ดินเขากระโดง ทุกอย่างทำตามกฏหมาย แต่หากพูดไปมากเดี๋ยวจะไปขัดแย้งกัน