‘อนุทิน’ ยันร้านค้าเข้าร่วม ‘คนละครึ่ง’ ไม่โดนเก็บภาษีย้อนหลัง

09 ก.ย. 2568 | 05:29 น.

หัวหน้าทีมเศรษฐกิจภูมิใจไทยระบุ ‘อนุทิน’ ยืนยันไม่มีการเก็บภาษีย้อนหลังร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ‘คนละครึ่ง’ แย้มผู้บริโภคได้สิทธิภาษีเพิ่มเติม

KEY

POINTS

  • ยืนยันร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ "คนละครึ่ง" จะไม่ถูกตรวจสอบและเก็บภาษีย้อนหลัง เพื่อคลายความกังวลของผู้ประกอบการ
  • ภาครัฐรับฟังปัญหาจากโครงการในอดีต เช่น เงื่อนไขที่ยุ่งยาก เพื่อนำมาปรับปรุงในการดำเนินโครงการครั้งใหม่
  • แพลตฟอร์มเดลิเวอรีอาจมอบส่วนลดพิเศษ เช่น ค่าบริการ (GP) ให้กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ
  • มีเป้าหมายที่จะเร่งดำเนินโครงการให้เร็วที่สุด โดยจะมีการเชื่อมโยงระบบของเอกชนเข้ากับแอปพลิเคชันของรัฐ

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับภาคเอกชน เช่น สมาคมภัตตาคารไทย ,LINE Man ,Grab และวงในเกี่ยวกับโครงการ “คนละครึ่ง” โดยยืนยันว่าโครงการดังกล่าวจะไม่มีการเก็บภาษีย้อนหลังกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งเป็นประเด็นที่ร้านค้าค่อนข้างกังวล โดยเป็นแนวคิดของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี

สำหรับประเด็นเรื่องการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งนั้น นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทนรวงการคลังก็ออกมาระบุชัดเจนว่า หากเป็นผู้ที่อยู่ในฐานในระบบอยู่แล้วไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม ถึงเวลาใช้ได้เลย ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้อยู่ในระบบอาจจะต้องมีการลงทะเบียนใหม่ 

ทั้งนี้ ปัญหาจากโครงการเก่าๆ ที่ได้รับฟังมาจากภาคเอกชน ได้แก่ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่มากเกินไป ระยะเวลาการใช้งาน วงเงินในการใช้ และความกังวลเรื่อง การเก็บภาษีย้อนหลัง ซึ่งจะเป็นข้อมูลในการประกอบการดำเนินโครงการต่อไป

‘อนุทิน’ ยันร้านค้าเข้าร่วม ‘คนละครึ่ง’ ไม่โดนเก็บภาษีย้อนหลัง

อย่างไรก็ดี ในส่วนของประชาชนที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งนั้น นายกฯยังอาจะเพิ่มสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ที่อยู่ในระบบภาษีที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง แต่จะเป็นเท่าไหร่ต้องรอให้นายกฯเป็นผู้ชี้แจงในรายละเอียด

อีกทั้งยังมีข่าวดีจากทางสมาคม รวมถึงแพลตฟอร์มด้วยว่า ในช่วงที่ทำกิจกรรมคนละครึ่งจะมีส่วนลดพิเศษ เช่น อาจจะลดเป็นค่าบริการระบบที่ร้านอาหารจ่ายให้กับแพลตฟอร์ม Delivery หรือค่า GP เป็นต้น

 

อย่างไรก็ดี สมาคมได้เสนอแนวทางในการจัดทำฐานข้อมูลสำหรับร้านอาหารให้กับกระทรวงการคลัง ซึ่งหมายความว่า ผู้ที่ใช้แพลตฟอร์มอยู่แล้วอาจไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนใหม่ 

“มีการพูดคุยถึงการนำข้อเสนอของแพลตฟอร์มไปเสนอต่อรมว.คลัง เพื่อเตรียมการก่อนการแถลงนโยบายและประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีเป้าหมายที่จะ เริ่มต้นโครงการให้เร็วที่สุด”

อีกทั้งยังมีการหารือเรื่องการเชื่อมโยงระบบระหว่างแอปพลิเคชันต่างๆ ของภาคเอกชนกับแอปพลิเคชันภาครัฐ เช่น แอปพลิเคชันเป๋าตังค์ ซึ่งอาจจะต้องมีการนัดหารือกันในส่วนของเบื้องหลังระบบการแก้ไขปัญหาและข้อกังวลจากโครงการเก่า