'ไข่เจียวปู' 4 พันบาท 'สคบ.-ค้าภายใน' ลงพื้นที่เช็คข้อเท็จจริงพรุ่งนี้

19 ส.ค. 2568 | 10:56 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ส.ค. 2568 | 11:22 น.

สคบ. - กรมการค้าภายใน เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบกรณี "ไข่เจียวปู" ราคา 4,000 บาท วันที่ 20 ส.ค. นี้ หลังผู้บริโภคร้องเรียนเมนูแจ้งราคาที่ 1,500 บาท แต่จ่ายเงินกลับถูกเรียกเก็บสูง

กรณีผู้บริโภค ระบุถึงร้านอาหารจำหน่ายไข่เจียวปู ที่มีการเรียกเก็บเงินไม่ตรงกับราคาที่ระบุไว้ ในเมนู โดยเมนูไข่เจียวปูระบุราคาที่ 1,500 บาท แต่เมื่อชำระเงินกลับถูกเรียกเก็บสูงถึง 4,000 บาท ทำให้ผู้บริโภคเสียหายนั้น 

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า ล่าสุดได้มอบให้นายอนุพงษ์ เจริญเวช ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภค 2 ร่วมกับกรมการค้าภายใน ทำการตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว และในวันที่ 20 สิงหาคม 2568 นี้ สคบ. จะร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย

สำหรับการตรวจสอบกรณีดังกล่าว กรมการค้าภายในจะเน้นตรวจสอบตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เกี่ยวกับการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและบริการ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542

ขณะที่ สคบ.จะตรวจสอบการโฆษณาไข่เจียวปูที่อาจเข้าข่ายโฆษณาไม่ตรงตามความเป็นจริง หรือสร้างความเข้าใจผิดต่อสาระสำคัญของสินค้า เช่น การระบุว่า เป็นเมนูพิเศษ โดยระบุราคาไว้ แต่มีการเรียกเก็บเงินไม่ตรงกับที่ระบุไว้ในเมนู หรือได้รับสินค้าไม่ตรงตามที่โฆษณาไว้ จะเข้าข่ายการละเมิดสิทธิผู้บริโภค ซึ่งผู้บริโภคจะมีสิทธิได้รับการชดเชยความเสียหาย

นายรณรงค์ กล่าวว่า ในกรณีนี้ สคบ. ตรวจสอบแล้วยังไม่มีการเรื่องร้องทุกข์จากผู้เสียหายดังกล่าว โดย สคบ. ได้ดำเนินการตามนโยบายของนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ให้ สคบ. ดำเนินการช่วยเหลือผู้บริโภคในทุกกรณีที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย โดยเรื่องร้องเรียนใดอยู่ในอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานอื่นจะประสานส่งเรื่องให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ 

ปัจจุบันรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สั่งการให้ สคบ. นำระบบ “Traffy Fondue (ทราฟฟี่ ฟองดูว์)” ซึ่งระบบนี้เมื่อเกิดการร้องทุกข์สามารถส่งเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง รวมถึง สคบ. ด้วย เพื่อเพิ่มความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการรับเรื่องร้องเรียนและดำเนินการช่วยเหลือผู้บริโภค

นอกจากนี้ สคบ. ได้มีนโยบายการกระจายอำนาจลงไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหากผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย สามารถยื่นเรื่องร้องเรียนได้ที่คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดทุกจังหวัด หรือคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำเทศบาล หรือคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำองค์การบริหารส่วนตำบลทั่วประเทศ หรือเมืองพัทยา และสำนักงานเขตทุกเขตของกรุงเทพมหานคร