รัฐบาลรอผู้ว่าธปท.คนใหม่  เคลื่อนแผนตั้ง AMC แก้หนี้ครัวเรือน

จากแนวคิดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วยการตั้งบรรษัทบริหารสินทรัพย์(AMC) ภาคประชาชน เพื่อแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศนั้น 

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้หารือร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องในการเดินหน้าตั้ง AMC เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาหนี้เสียภาคครัวเรือน แต่รัฐบาลยังรอการแต่งตั้งผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ เพื่อมาขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว จึงยังไม่ได้ข้อสรุปในการเดินหน้าโครงการเร็วๆนี้ คาดว่า จะมีความชัดเจนช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปี 2569 

อย่างไรก็ตาม หน่วยงานภาครัฐ หรือสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ไม่ได้ถนัดในการบริหารจัดการหนี้บางประเภท เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้เกษตรกร ฉะนั้น จะต้องมีการทำงานร่วมกับบริษัทเอกชน อาทิ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM เข้ามาร่วมกันบริหารจัดการสินทรัพย์

ก่อนหน้านี้ ธนาคาร ออมสินได้ร่วมมือกับ BAM ตั้งบริษัท บริหารสินทรัพย์อารีย์ จำกัด หรือ ARI-AMC นำร่องโอนหนี้เสียจากออมสินเข้ามาบริหาร รอบแรก 130,000 บัญชี วงเงิน 11,000 ล้านบาท ประเภทสินเชื่อทั้งที่มีและไม่มีหลักประกัน ซึ่งจะช่วยให้ลูกหนี้หลุดพ้นจากการเป็นผู้เสียประวัติทางเครดิตได้ง่ายขึ้น และขณะนี้ยังเตรียมโอนหนี้รอบที่ 2 เข้าสู่การบริหารของ ARI-AMC 

ขณะที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) รัฐบาลก็มีแนวคิดที่จะให้จัดตั้ง AMC เพื่อมาบริหารหนี้เสียของเกษตรกรเช่นเดียวกัน แต่กลุ่มลูกหนี้เกษตรกรที่เป็นหนี้เสียส่วนใหญ่มีความซับซ้อน การจัดตั้ง AMC ร่วมกับพาร์ทเนอร์อาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย

ฉะนั้น อาจใช้แนวคิดในการจ้างทีมของ BAM ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารสินทรัพย์เข้าไปบริหารจัดการ แบบไม่ต้องร่วมทุน และจ่ายค่าธรรมเนียมการดำเนินงานให้กับ BAM

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการคลัง โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางตั้ง AMC มาอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เคยทำเรื่องดังกล่าวออกมาแล้วผ่าน ARI-AMC ซึ่งเป็นบริษัทลูกของธนาคารออมสิน 

ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างพิจารณาว่า จะมี AMC เพิ่มเติมหรือไม่ เนื่องจากยังมีจำนวนหนี้ครัวเรือนอยู่ในระบบจำนวนมาก ซึ่งในส่วนของแบงก์รัฐอื่น เช่น ธ.ก.ส.ก็อยู่ระหว่างหารือเรื่องดังกล่าวเช่นกัน

ส่วนแนวทางการจะเป็นแต่ละแบงก์รัฐจัดตั้ง AMC เอง หรือรวมเป็นแห่งเดียวนั้นยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ด้วยการดำเนินธุรกิจของธ.ก.ส. ไม่เหมือนแบงก์อื่น ก็อาจจะพิจารณาเรื่องนี้  แต่ไม่ว่าจะเดินหน้าด้วยวิธีการใด มีนโยบายว่า ห้ามยึดที่ของเกษตรกร 

“กติกาและโจทย์ที่ผมย้ำกับธ.ก.ส.คือ ห้ามยึดที่ดินเกษตรกร เพราะหากมีการตั้ง AMC แล้วนำที่ดินเกษตรกรไปขายกระจายออกไป  เกษตรกรก็จะได้รับผลกระทบอีก เรากำลังหาวิธีว่า ในส่วนของธ.ก.ส.จะสามารถดำเนินการวิธีใดได้บ้าง รูปแบบจะเป็นเช่นไร ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องเป็น AMC เท่านั้น ผมบอกสิ่งที่อยากได้ แต่ไม่ได้กำหนดเรื่องกลไก” 

ก่อนหน้านายนายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ธนาคารอยู่ระหว่างเตรียมดำเนินโครงการช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป ซึ่งประสบปัญหาหนี้เสียเรื้อรัง และไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ โดยมีลูกหนี้เข้าข่ายประมาณ 10,000 ราย คิดเป็นมูลหนี้รวมราว 4,000-5,000 ล้านบาท 

ทั้งนี้ แนวทางการช่วยเหลือจะอยู่บนหลักการลดผลกระทบต่อภาครัฐให้น้อยที่สุด โดยขณะนี้ กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กำลังอยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางดังกล่าว เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,116 วันที่ 24 - 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2568