นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ยอดภาระหนี้ที่รัฐบาลต้องจ่ายคืนธ.ก.ส. จากการนำไปดำเนินโครงการรับจำนำข้าว ในยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังคงเป็นไปตามตัวเลขเดิมที่ธ.ก.ส. ได้สำรองจ่ายไป แม้ศาลปกครองสูงสุดจะมีคำพิพากษาให้ชดใช้ จากกรณีปล่อยให้เกิดความเสียหายจากการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ลดลงเหลือเพียง 10,028 ล้านบาท
สำหรับตัวเลขชดเชยความเสียหาย 10,028 ล้านบาท เป็นคนละส่วนกับยอดที่รัฐบาลต้องชดเชยคืน ธ.ก.ส. ซึ่งเป็นเงินที่ธนาคารสำรองจ่ายไปล่วงหน้าดำเนินโครงการ ดังนั้น ธ.ก.ส.สำรองจ่ายไปเท่าไหร่ สำนักงบประมาณต้องชดเชยคืนเท่านั้น พร้อมย้ำว่าภาระนี้ไม่เกี่ยวกับผลคดีทางแพ่ง เพราะ ธ.ก.ส. ทำหน้าที่บริหารงบตามนโยบายรัฐบาล และแจ้งยอดขอรับชดเชยจากสำนักงบประมาณทุกปีตามจริง
“ความเสียหาย ก็คือความเสียหาย แต่ภาระพูกพันงบประมาณที่ต้องใช้คืนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ยังเป็นตัวเลขของฝ่ายแบงก์และสำนักงบประมาณ ดังนั้นเรื่องตัวเลขความเสียหายเป็นเรื่องที่เขาต้องไปคำนวณกันเอง เราสำรองจ่ายไปเท่าไร รัฐก็ต้องชดเชยคืนเท่านั้น”
สำหรับปี 2569 ในส่วนของงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าว ตัวเลขอยู่ที่สำนักงบประมาณฯ เป็นผู้ดูแลทั้งหมด โดย ธ.ก.ส. จะแจ้งตัวเลขรวมไป และสำนักงบประมาณ จะพิจารณาจัดสรรลงมาเป็นก้อน
สำหรับโครงการจำนำข้าวในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ดำเนินการช่วงปี 2554/2555 ถึง 2556/2557 รวม 5 ฤดูกาล รับจำนำข้าวเปลือกกว่า 54.35 ล้านตัน มูลค่าข้าวมูลค่าข้าวทั้งหมด 8.57 แสนล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโครงการ 985,000 ล้านบาท รัฐบาลขาดทุนจากการดำเนินงานโครงการ 539,038.22 ล้านบาท
โดยมี ธ.ก.ส. เป็นกลไกสำคัญในการบริหารทั้งหมด รวม 5 ฤดูกาล มีรายละเอียดดังนี้