หลังจาก "สำนักงานศาลปกครอง" ออกคำชี้แจงกรณีที่มีความเข้าใจไม่ตรงกัน กรณี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องชดใช้ค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว 1 หมื่นล้านบาทนั้น
โดยสรุปยืนยันว่าศาลปกครองสูงสุดไม่ได้สั่งให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชดใช้จำนำข้าวหมื่นล้าน เพราะศาลไม่มีอำนาจพิพากษาให้คู่กรณีฝ่ายผู้ฟ้องคดีรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน (อ่านรายละเอียดคำชี้แจงเต็ม คลิก)
"ฐานเศรษฐกิจ" ตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งข่าวซึ่งเป็นนักกฎหมายที่มีความเชี่ยวชาญกฎหมายมหาชน อธิบายภาษากฎหมายให้เข้าใจง่ายว่า คดีเรียกค่าเสียหายนางสาวยิ่งลักษณ์ หมื่นล้านนั้น ศาลปกครองไม่ได้สั่งให้อดีตนายกฯจ่ายเงิน แค่เป็นการลดยอดที่กระทรวงการคลังเรียกเก็บ
แหล่งข่าวเริ่มอธิบายว่า กระทรวงการคลัง ออกคำสั่งที่ 1351/2559 ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว 35,717 ล้านบาท แต่ยิ่งลักษณ์ ไม่เห็นด้วย จึงฟ้องศาลปกครองให้เพิกถอนคำสั่งนี้
จากนั้น วันที่ 2 เมษายน 2564 ศาลปกครองกลางพิพากษาเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 1351/2559 ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 3.5 หมื่นล้านบาท
ศาลปกครองกลางให้เหตุผลว่า ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าเป็นผู้กระทำให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวโดยตรง การทุจริตเกิดขึ้นในเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติ โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์เพียงคนเดียวไม่สามารถที่จะระงับยับยั้งโครงการ หรือให้มีการเบิกจ่ายงบประมาณได้ เพราะโครงการดังกล่าวประกอบไปด้วยหลายหน่วยงาน และขั้นตอนการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวนความรับผิดทางละเมิดก็ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด
หลังจากศาลปกครองกลางพิพากษาเพิกถอนคำสั่งเรียกเก็บเงิน 3.5 หมื่นล้าน กระทรวงการคลังยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลางที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 135/2559 ลงวันที่ 13 ต.ค. ไปยังศาลปกครองสูงสุด
ประเด็นที่กระทรวงการคลังอุทธรณ์ คือ "ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลปกครองกลาง" ที่ว่ายิ่งลักษณ์ไม่มีส่วนรับผิดชอบโดยตรง จึงขอให้ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาความรับผิดของยิ่งลักษณ์ในฐานะนายกรัฐมนตรีและประธาน กขช.
ล่าสุด 22 พฤษภาคม 2568 ศาลปกครองสูงสุด พิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง โดยเห็นว่าคำสั่งของกระทรวงการคลัง ไม่ชอบด้วยกฎหมายบางส่วน จึงมีคำพิพากษาแก้คำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้นเป็นให้คำสั่งกระทรวงการคลังที่1351/2559 ลงวันที่ 13 ต.ค. 59 ที่สั่งให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 35,717,273,028.23 บาท แก้เป็นสั่งชดใช้เป็นเงิน 10,028 ล้านบาท โดยศาลไม่ได้สั่งให้ยิ่งลักษณ์จ่ายเงิน แต่อย่างใด
แหล่งข่าวอธิบายด้วยว่า ความเสียหายเฉพาะในขั้นตอนการระบายข้าวด้วยวิธีขายแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) ผู้ฟ้องคดีที่ 1 (ยิ่งลักษณ์) ทราบปัญหาการทุจริตแล้ว แต่ไม่ได้มีการติดตามกำกับดูแล จึงมีพฤติการณ์ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงในการปฏิบัติหน้าที่
หลายคนเข้าใจผิดว่าศาลสั่งให้ยิ่งลักษณ์จ่ายเงิน 1 หมื่นล้าน แต่จริงๆ แล้ว ศาลแค่บอกว่ากระทรวงการคลังเรียกเงินมากเกินไป ถ้าจะเรียก ก็เรียกได้ไม่เกิน 10,028 ล้านบาท ศาลไม่มีอำนาจสั่งให้จ่ายเงิน เพราะนี่เป็นคดีฟ้องเพิกถอนคำสั่ง
โดยเรื่องนี้รัฐบาลมีทางเลือกเดียว คือ "ออกคำสั่งใหม่" เรียกเก็บเงิน 10,028 ล้านบาท (ตามที่ศาลไม่ได้เพิกถอน) โดยที่นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ลงนามในคำสั่ง
เหมือนคุณถูกปรับ 100 บาท คุณไม่พอใจจึงฟ้องศาล ศาลบอกว่าปรับมากไป ให้ปรับแค่ 30 บาท แต่ศาลไม่ได้สั่งให้คุณจ่ายค่าปรับ - เจ้าหน้าที่ต้องออกใบปรับใหม่ 30 บาท ถ้าคุณไม่จ่ายก็ใช้มาตรการบังคับได้