นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้ร่วมเสวนาในโต๊ะกลม “Thai Entertainment Complex Roundtable” ซึ่งจัดโดยกลุ่ม IAG ที่โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ
นายพริษฐ์ได้แสดงความคิดเห็นอย่างชัดเจนต่อโครงการนโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวกับการสร้าง “Entertainment Complex” หรือสถานบันเทิงครบวงจรของไทย โดยเขากล่าวว่าไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว ซึ่งเต็มไปด้วยข้อกังวลและคำถามที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของรัฐบาลในเรื่องนี้
นายพริษฐ์ เริ่มต้นด้วยการตั้งคำถามถึงความโปร่งใสของรัฐบาลในการตัดสินใจเกี่ยวกับโครงการนี้ โดยระบุว่าแม้รัฐบาลจะอ้างว่าภาคเอกชนสนใจลงทุน แต่การที่มีความสนใจจากภาคเอกชนไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการประกันความสำเร็จของโครงการเสมอไป เนื่องจากยังไม่มีการศึกษาความเป็นไปได้ที่รอบด้านและชัดเจนจากภาครัฐ พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโครงการอย่างโปร่งใส
นายพริษฐ์ยังกล่าวถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลอ้างถึงในแง่ของการเพิ่มจำนวนการท่องเที่ยว โดยชี้ว่า ข้อมูลที่รัฐบาลใช้ไม่ได้มาจากการศึกษารอบด้าน แต่มีแค่รายงานจากกรรมาธิการศึกษาของสภาฯ ซึ่งยังเต็มไปด้วยคำถามเกี่ยวกับตัวเลขและความสมบูรณ์ของข้อมูลที่นำเสนอ เขายังชี้ว่าแม้ว่ารัฐบาลจะพูดถึงการเพิ่มจำนวนการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะจากประเทศจีน แต่กลับมีมาตรการจากรัฐบาลจีนที่เข้มงวดกับการเดินทางของพลเมืองไปยังประเทศที่มีกาสิโนถูกกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อจำนวนการท่องเที่ยวในประเทศไทย
นายพริษฐ์ ยังตั้งคำถามถึงระบบการเก็บภาษีจากกิจกรรมในกาสิโน โดยกล่าวว่า การที่รัฐบาลไม่สามารถยืนยันได้ว่าผลประโยชน์จากการเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวจะตกกับใคร หรือจะสามารถเก็บภาษีจากกิจกรรมนี้ได้มากน้อยเพียงใดเป็นสิ่งที่ยังไม่ชัดเจน เขาตั้งข้อสงสัยว่าอัตราภาษีที่เกิดจากการใช้บริการในกาสิโนจะได้ผลจริงหรือไม่ และรัฐบาลมีความสามารถในการจัดเก็บภาษีจากรายได้ดังกล่าวได้มากแค่ไหน
นายพริษฐ์กล่าวว่า แม้รัฐบาลจะอ้างถึงการมีมาตรการที่ดีในการควบคุมปัญหาทางสังคมที่อาจเกิดขึ้นจากการมีกาสิโนและสถานบันเทิงครบวงจร แต่ในร่างพ.ร.บ. เองกลับไม่มีมาตรการเหล่านั้นถูกระบุไว้อย่างชัดเจน และรัฐบาลยังไม่สามารถให้คำมั่นสัญญาในเรื่องนี้ได้ ซึ่งเป็นเหตุผลที่เขาอยากเห็นมาตรการที่ชัดเจนในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
อีกหนึ่งคำถามที่นายพริษฐ์ตั้งขึ้นคือเกี่ยวกับ การขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตัดสินใจเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว แม้ว่าจะมีการกล่าวถึงความสำคัญของการพัฒนาเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ แต่กลับไม่มีการสื่อสารที่ตรงไปตรงมากับประชาชน โดยเฉพาะในช่วงก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งทำให้หลายคนรู้สึกว่าโครงการนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลไม่เคยให้ข้อมูลหรือชี้แจงอย่างชัดเจนกับประชาชน
นายพริษฐ์กล่าวอีกว่า กระบวนการดำเนินนโยบายนี้ทำให้ประชาชนเกิดความไม่ไว้วางใจต่อรัฐบาล เนื่องจากโครงการนี้ไม่ได้มีการพูดคุยหรือสื่อสารกับประชาชนอย่างเปิดเผย การที่รัฐบาลบอกว่า Entertainment Complex ไม่เหมือนกับกาสิโนนั้น แม้ว่าในความเป็นจริงกาสิโนจะเป็นหัวใจหลักของโครงการก็ทำให้เกิดความรู้สึกขัดแย้งและสงสัยในใจของประชาชน
นายพริษฐ์ ยังกล่าวถึงการที่รัฐบาลต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆ แทนการพึ่งพานักท่องเที่ยวจีน โดยชี้ให้เห็นว่าแนวทางนี้อาจนำมาซึ่งค่าใช้จ่ายที่สูงและความเสี่ยงจากการลดลงของนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน และเขายังได้เปรียบเทียบการดำเนินการในไทยกับประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีการควบคุมกาสิโนและปัญหาการติดพนันได้ดีกว่า รวมถึงมีการแก้ไขกฎหมายฟอกเงิน ซึ่งประเทศไทยยังไม่มีมาตรการที่รองรับปัญหาเหล่านี้
สุดท้าย นายพริษฐ์ได้เสนอให้รัฐบาลจัดทำประชามติ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับการตั้ง Entertainment Complex ในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ อย่างกรุงเทพฯ ซึ่งหากไม่มีการทำประชามติ การตัดสินใจที่เกิดขึ้นอาจไม่สะท้อนความต้องการและความเห็นของประชาชนในวงกว้าง
นายพริษฐ์ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า รัฐบาลควรให้เอกชนลงทุนได้อย่างเสรี โดยไม่ต้องเอื้อประโยชน์ให้กับภาคเอกชนบางกลุ่ม และต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนในที่สุด