สรรพสามิตจัด “สุราชุมชน Lab สัญจร” บริการรถตรวจคุณภาพเหล้าฟรี

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการ “สุราชุมชน Lab สรรพสามิตสัญจร” เป็นการนำรถห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ (Mobile Lab) ของกรมสรรพสามิตลงพื้นที่นำร่อง ภาคเหนือ (ลำปาง) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (สกลนคร) และภาคใต้ (สงขลา) เพื่อยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามมาตรฐาน และปลอดภัยต่อผู้บริโภค โดยมุ่งเน้นการตรวจวิเคราะห์คุณภาพสุราฟรี ถ่ายทอดองค์ความรู้ และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานสุรา

สำหรับกรมสรรพสามิตมีหน้าที่ในการดูแลมาตรฐานสุรา เช่น การตรวจวิเคราะห์เพื่อตรวจสอบพิกัดสินค้า การตรวจสอบวิเคราะห์คุณภาพสุราทุกชนิด ผ่านการตรวจวิเคราะห์สินค้าในห้องปฏิบัติการตรวจสอบสินค้าของกรมสรรพสามิตที่มีความทันสมัย เพื่อไม่ให้สินค้าที่ผลิตเป็นอันตรายต่อประชาชนจากสารตกค้างต่าง ๆ เช่น สารหนู ตะกั่ว เมทิลแอลกอฮอล์ รวมถึงความเข้มข้นของแอลกอฮอล์

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการตรวจสอบคุณภาพจะต้องส่งมาที่กรมสรรพสามิตเท่านั้น วันนี้กรมสรรพสามิตต้องการบริการพี่น้องประชาชน เพื่อให้การตรวจสอบสารตกค้างที่เป็นอันตรายรวดเร็วและอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนมากยิ่งขึ้น กรมสรรพสามิตจึงจัดให้มีโครงการ “สุราชุมชน Lab สรรพสามิตสัญจร” 

“ถือเป็นการดำเนินการเชิงรุกผ่านบริการ “รถห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ (Mobile Lab)” ลงสัญจรในพื้นที่ 3 จังหวัดนำร่องสำคัญ ได้แก่ จังหวัดลำปาง จังหวัดสกลนคร และจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงในการผลิตสุราชุมชนของไทย เพื่อยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์สุราให้ได้มาตรฐานทางวิทยาศาสตร์และปลอดภัยต่อผู้บริโภค ซึ่งเป็นการบริการฟรี”

นอกจากนั้น เรายังส่งเจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ การผลิต การควบคุมคุณภาพ และการให้คำปรึกษาเชิงลึก และในการลงพื้นที่จะมีการเปิดเวทีพูดคุยแลกเปลี่ยนกับผู้ผลิตในชุมชน ในด้านการให้ความรู้ในการผลิตสุราตามมาตรฐานของกรมสรรพสามิต การนำเสนอแนวทางการส่งเสริมสนับสนุนภูมิปัญญาและวัตถุดิบในท้องถิ่น รวมถึงการเข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านการประสานงานกันระหว่างคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการในระบบภาษีสรรพสามิต 2,119 ราย แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมสุราชุมชน การดำเนินโครงการ “สุราชุมชน Lab สรรพสามิตสัญจร” จะเป็นการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นสู่ตลาดที่กว้างขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมวางรากฐานให้สุราชุมชนเป็น Soft Power ของประเทศไทยที่แสดงถึงวัฒนธรรม ภูมิปัญญา และเศรษฐกิจฐานราก