นายจอร์จ ชอย หัวหน้างานวิจัยเกมระดับโลก Citi Research กล่าวในหัวข้อเรื่อง “Entertainment Complex เครื่องจักรเศรษฐกิจตัวใหม่?” ว่า จากรายงานการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment - FDI) ประเมินว่า โครงการ Integrated Resort (IR) หรือศูนย์รวมความบันเทิงครบวงจรในประเทศไทย ควรมี 5 แห่งในจังหวัดท่องเที่ยว เช่น กรุงเทพ เชียงใหม่ พัทยา และภูเก็ต เป็นต้น ทั้งนี้ คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนกว่า 1.88 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6 แสนกว่าล้านบาท
“แม้ว่าร่างกฎหมายของไทยจะคาดการณ์เม็ดเงินเข้ามาลงทุนไว้ประมาณ 1 แสนล้านบาท แต่เราประเมินว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนสูงกว่านั้น โดยคาดว่าทำเลทองอย่างกรุงเทพ อาจจะเห็นเม็ดเงินเข้ามาลงทุนกว่า 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.95 แสนล้านบาท ส่วนภูเก็ต และเชียงใหม่ อาจเห็นการเข้ามาลงทุนกว่า 1,400 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท”
ขณะเดียวกัน หากเปรียบเทียบกับการลงทุนประเทศอื่นๆ ในเอเชีย เช่น มาเก๊า เม็ดเงินลงทุนในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา มากกว่า 5.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ, สิงคโปร์ มากกว่า 2.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ, ญี่ปุ่น ประมาณ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ, และฟิลิปปินส์ เกือบ 6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนต่างชาติยินดีลงทุนหากเห็นศักยภาพในการเติบโต
นอกจากนี้ ได้ประเมินว่า หากมี Entertainment Complex ในประเทศไทย ภาษีจากการเล่นเกมจะเป็นแหล่งรายได้ใหม่สำหรับรัฐบาล ซึ่งจะช่วยขยายฐานภาษี ส่งผลดีต่อมุมมองการคลัง โดยตามกฎหมายกำหนดรายได้ภาษีไว้ที่ 17% ของรายได้รวม ซึ่งประมาณการว่ารัฐจะมีรายได้ประมาณ 1.55 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี หรือประมาณ 5 หมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับรายได้ภาษีสรรพสามิตจากสุราที่เก็บได้ในปีงบประมาณ 2566-2567
ขณะเดียวกัน จะสร้างงานทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยงานเหล่านี้มีตั้งแต่ระดับล่าง และระดับความชำนาญ ซึ่งประเมินว่าหากไทยมี Entertainment Complex 5 แห่ง จะมีการจ้างงานใหม่ประมาณ 35,000 - 50,000 ตำแหน่ง โดยมีตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับทักษะสูง และงานทางอ้อมจะถูกสร้างขึ้นจากความต้องการแรงงานก่อสร้าง ซัพพลายเออร์ การตลาด และผู้จัดงาน เป็นต้น
สำหรับ Entertainment Complex จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว และเพิ่มการมาเยือนของนักท่องเที่ยว ซึ่งสิงคโปร์เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน โดยก่อนเปิด Integrated Resort (IR) สิงคโปร์มีนักท่องเที่ยวเฉลี่ย 8.6 ล้านคนต่อปี หลังจาก IR เปิด ในปี 2553 การมาเยือนเพิ่มขึ้นทันที 20% และในปี 2554 เพิ่มขึ้น 13% ซึ่งในช่วง 10 ปี มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 7% ต่อปี และทำสถิติสูงสุดในปี 2562
“IR ในสิงคโปร์ได้กลายเป็นสถานที่ที่ต้องไปเยือนและประสบความสำเร็จในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก อีกทั้ง ยังมีรายได้ภาษีส่วนใหญ่มาจากการเข้าไปเล่นการพนัน 80-90% และข้อมูลช่วงเดือนพ.ย.67 รายงานว่า 20% เป็นรายได้ที่ไม่ได้มาจากการพนัน ซึ่งเราประเมินว่า IR จะสามารถเสริมสร้างความหลากหลายในการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมสูงสุดอยู่แล้ว เพราะในปี 2567 มีนักท่องเที่ยวเข้าไทยกว่า 35 ล้านคน”
ทั้งนี้ IR ในเอเชียไม่ได้มีเฉพาะพื้นที่คาสิโนนเท่านั้น ยังมีพื้นที่โรงแรม สิ่งอำนวยความสะดวกด้าน MICE หรือการประชุม การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การจัดประชุม และการจัดนิทรรศการ ร้านอาหารระดับโลก และเวทีสำหรับการแสดงและกิจกรรมต่างๆ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ เช่น คอนเสิร์ต การแข่งขันกีฬา เป็นต้น โดยเราประเมินว่ามีกลุ่มผู้มีฐานะร่ำรวยจำนวนมากในเอเชียที่ยินดีและสามารถใช้จ่ายได้มาก หากมีผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
ส่วนวิธีการที่จะต่อสู้กับการพนันผิดกฎหมายนั้น คือ การทำให้เกมมิ่งถูกกฎหมายและควบคุมอย่างเข้มงวดเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการต่อสู้กับการพนันผิดกฎหมาย และแม้การพนันผิดกฎหมายจะมีอยู่จริง แต่ผู้เล่นส่วนใหญ่ชอบคาสิโนที่ถูกกฎหมายมากกว่า เช่น เกาหลี มีรายได้จากการเล่นพนันผิดกฎหมายเพียง 5% ของรายได้คาสิโนที่ถูกกฎหมาย เพราะในคาสิโนที่ถูกกฎหมาายผู้เล่นรู้สึกปลอดภัยกว่า ได้รับความยุติธรรมในการเล่น และสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวกับการเล่นเกม (Non-gaming activities) เป็นต้น ทั้งนี้ เมื่อคาสิโนผิดกฎหมายเสียลูกค้า เขาก็จะต้องออกจากตลาดไป เป็นเรื่องง่ายที่รัฐบาลจะแก้ไขเรื่องการฟอกเงิน และการส่งเสริมเกมมิ่งอย่างมีความรับผิดชอบ