ทำเนียบแก้ต่าง รองนายกฯ “พีระพันธ์ุ” เยือนลาว ปัดหนีแจง ป.ป.ช.

15 พ.ค. 2568 | 05:31 น.
อัปเดตล่าสุด :15 พ.ค. 2568 | 05:48 น.

ทำเนียบแก้ต่าง รองนายกฯ “พีระพันธ์ุ” เยือนลาว เจรจาแนวทางลงทุนพลังงานไฟฟ้าระหว่างภาครัฐ ปัดหนีชี้แจง ป.ป.ช. ชี้หมายเรียกของ ป.ป.ช. ไม่เป็นไปตามระเบียบและกฎหมาย

จากกรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มีกำหนดการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ระหว่างวันที่ 14-15 พฤษภาคม 2568 เพื่อเจรจาซื้อไฟฟ้าเข้าประเทศไทยโดยตรง โดยมีการอ้างว่าการเดินทางไปดังกล่าวเป็นไปตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะเรียกนายพีระพันธุ์ ไปรับทราบข้อกล่าวหากรณีติดสติกเกอร์ชื่อตนเองบนถุงยังชีพที่แจกประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม

ล่าสุด สำนักโฆษก ทำเนียบรัฐบาล ได้ชี้แจงรายละเอียดถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า วานนี้ (14 พฤษภาคม 2568) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวตามคำเชิญของนายโพไซ ไซยะสอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและบ่อแร่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อหารือเรื่องพลังงานไฟฟ้าซึ่งเป็นผลประโยชน์ร่วมกันของไทยและ สปป.ลาว 

ทั้งนี้เพื่อให้ได้ราคาพลังงานที่เป็นธรรมและเป็นประโยชน์ของสองประเทศ โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง และจะมีการพบกับนายสะเหลิมไซ กมมะสิด รองนายกรัฐมนตรีในวันนี้

 

ทำเนียบแก้ต่าง รองนายกฯ “พีระพันธ์ุ” เยือนลาว ปัดหนีแจง ป.ป.ช.

 

ในการนี้ นายพีระพันธุ์ได้พบหารือกับ นายโพไซ ไซยะสอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและบ่อแร่ และคณะ เพื่อติดตามความคืบหน้าของข้อตกลงที่ทำไว้ระหว่างไทยและ สปป.ลาว รวมทั้งร่วมหารือเกี่ยวกับแนวทางในการลงทุนของบริษัท EGATi  หรือ บริษัท กฟผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจและเป็นบริษัทในกลุ่มการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่จะเน้นลงทุนใน สปป.ลาว 

 

ทำเนียบแก้ต่าง รองนายกฯ “พีระพันธ์ุ” เยือนลาว ปัดหนีแจง ป.ป.ช.

 

จากเดิมที่ลงทุนหลากหลายประเทศและหลายธุรกิจ เนื่องจากประเทศไทยรับซื้อไฟฟ้าจาก สปป.ลาว อยู่แล้ว ซึ่งหากมีการลงทุนร่วมกันระหว่าง กฟผ. และ สปป.ลาวโดยตรง แทนที่จะซื้อจากเอกชนก็จะทำให้เกิดประโยชน์ทั้งสองฝ่าย และทำให้ประเทศไทยได้ไฟฟ้าสะอาดและราคาต้นทุนที่ถูกลงเพราะเป็นการลงทุนของรัฐวิสาหกิจของไทยเองและเหมือนซื้อไฟฟ้าจากตัวเอง

อย่างไรก็ตาม การเยือน สปป.ลาว ของนายพีระพันธุ์ในครั้งนี้ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเรียกไปรับข้อกล่าวหาของคณะกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. ตามที่สื่อหลายสำนักได้นำเสนอแต่อย่างใด โดยจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า หมายเรียกของ ป.ป.ช. ดำเนินการไม่เป็นไปตามระเบียบและกฎหมาย ซึ่งถือเป็นการส่งหมายโดยไม่ชอบ และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.เองก็ยอมรับว่ามีความผิดพลาดในการส่งหมายเรียกไปยังนายพีระพันธุ์ จึงต้องถือว่ายังไม่มีหมายเรียก