ดร.ณัฏฐ์ เปิดปมใหม่ พีระพันธุ์ ขาดคุณสมบัติรมต. ประโยชน์ทับซ้อน

12 พ.ค. 2568 | 05:31 น.
อัปเดตล่าสุด :12 พ.ค. 2568 | 05:40 น.

“ดร.ณัฏฐ์”ย้ำ“พีระพันธุ์”คุณสมบัติรัฐมนตรีขาดตั้งแต่วันยื่นใบสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ - แต่งตั้งกรรมการบริษัท-ผู้ถือหุ้นในบริษัทตนเอง ผลประโยชน์ทับซ้อน

วันที่ 12 พฤษภาคม 2568  จากกรณีนายสนธิญา สวัสดี ผู้กล่าวหา ได้ร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ไต่สวนและเอาผิด นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน กรณีขาดคุณสมบัติรัฐมนตรี จากการเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่อื่นๆ อันเป็นลักษณะต้องห้ามเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และรัฐมนตรี ทำให้เกิดปมใหม่ นอกเหนือปัญหาซุกหุ้น เป็นกรรมการบริษัท และแจกถุงยังชีพ 

ล่าสุด “ดร.ณัฏฐ์” หรือ ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน  ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการคมชัดลึก ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 โดยมีนายวราวิทย์ ฉิมมณี เป็นพิธีกร ได้แฉและเปิดปมใหม่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค พร้อมแสดงหลักฐานพยานเอกสารมัดนายพีระพันธุ์ ทั้งเอกสารมหาชนจาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ หลักฐานการเสียภาษีกรมสรรพากร และเอกสารจากหน่วยงานรัฐ โดย อธิบาย ดังนี้ 

1.คุณลักษะต้องห้ามเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามมาตรา 98 (15) แห่งรัฐธรรมนูญ ประกอบมาตรา 42(17) เป็นพนักงาน หรือ ลูกจ้างของหน่วยงานราชการ หน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ซึ่งต้องห้ามเป็นรัฐมนตรีตามมาตรา 160(6) 

2.นายพีระพันธุ์ ได้รับแต่งตั้ง ตามคำสั่ง สำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 324/2565 ลงวันที่ 20 ธันวาคม 2565 เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธุ์ จันทร์โอชา นับตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2565 เป็นต้นไป โดยตามคำวินิจฉัยที่ 5/2543 ระบุตำแหน่งดังกล่าว เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ สอดคล้องกับบทนิยาม  คำว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐ และ เจ้าพนักงานของรัฐ ตาม มาตรา 4 แห่ง พ.รป.ป.ป.ช. 2561 

3.นายพีระพันธุ์ ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ(รสทช.) และได้ยื่นสมัคร สส.บัญชีรายชื่อ เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2566 อันมีลักษณะต้องห้ามสมัครเป็น สส.ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(15) ประกอบ พ.ร.ป.สส. มาตรา 42(17) ซึ่งให้ถือวันที่ยื่นใบสมัคร และกระทำฝ่าฝืน พรป.สส.มาตรา 151 

4.หย่อนบัตรเลือกตั้ง สส.วันที่ 14 พฤษภาคม 2566 โดย กกต.ประกาศผลการเลือกตั้ง สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2566 

5. นายพีระพันธุ์ ลาออก จาก สส.เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2566 โดยระบุในเหตุผลลาออก ให้มีผลย้อนหลังถึงวันเลือกตั้ง สส. (14 พ.ค.66)

การลาออกให้มีผลย้อนหลังไป 47 วัน นั้น ไม่ทำให้พ้นจากความรับผิด เพราะการกระทำสำเร็จ นับตั้งแต่วันที่ยื่นใบสมัครต่อ กกต. วันที่ 4 เมษายน 2566 แม้ กกต. หรือ ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ชี้ขาด แต่พยานเอกสารปรากฏชัด 

อีกประเด็นหนึ่ง ที่เปิดปมกรณีที่ นายพีระพันธุ์ มีผลประโยชน์ทับซ้อน กรณีแต่งตั้งกรรมการบริษัท-ผู้ถือหุ้น ของตนเอง ที่ตนเป็นเจ้าของ มานั่งเป็น กรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (บอร์ด กฟผ.) ที่ตนเป็นเจ้ากระทรวงพลังงาน ซึ่งกำกับควบคุมพลังงาน-ไฟฟ้า ดังนี้

พล.ท.เจียรนัย วงศ์สอาด หนึ่งในกรรมการ บริษัท วีพี แอโร่เทค จำกัด และหนึ่งในกรรมการ บริษัท พี แอนด์ เอส แลนด์ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด

กระทรวงพลังงานทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ พน 0204/051 ลงวันที่ 9 ก.พ.2567 เห็นว่า เป็นผู้มีจริยธรรมและมีทักษะ ความรู้ ความเชี่ยวชาญสอดคล้องกับสมรรถนะหลักของกรรมการ กฟผ. และได้ยื่นแบบตรวจสอบประวัติบุคคล รับรองตนเองว่า ไม่มีประวัติในประเด็นต่างๆ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แจ้งผลการตรวจสอบแล้ว จึงสมควรเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบ

พล.ท.เจียรนัย วงศ์สะอาด หรือ เสธ.เปิ้ล ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการ กฟผ. เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2567 ซึ่งเป็นกรรมการ กฟผ.ชุดใหม่ ที่ นายพีรพันธุ์ จัดตั้งขึ้นหลังเข้ารับตำแหน่งรมว.พลังงาน 5 เดือน ในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อเนื่อง รัฐบาลนางสาวแพทอง ชินวิตร นายกรัฐมนตรี

นายสยาม บางกุลธรรม หรือ นายโก้ คนสนิท นายพีะพันธุ์ผู้ติดตามไปทุกหนทุกแห่ง มีสถานะ เป็น กรรมการบริษัท วีพี แอโร่เทค จำกัด แต่งตั้งเป็น ข้าราชการฝ่ายการเมือง ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

นายปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ หรือ คุณพ่อหมู เกี่ยวพันเป็นผู้ถือหุ้น 500 หุ้น ใน บริษัท พี แอนด์ เอส แลนด์ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 428/2567 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 โดยให้มีผลย้อนนับแต่วันที่12 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป

“จะเห็นได้ว่า นายพีระพันธุ์ ตั้งสมุนข้างกาย ที่เป็นกรรมการบริษัทและผู้ถือหุ้น ซึ่งมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับหน่วยงานของรัฐ และกิจการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งตนเองเป็นเจ้ากระทรวงพลังงานอยู่” ดร.ณัฏฐ์ ระบุ