เปิดเทอม-วันวิสาขบูชา ปี 68 คาดใช้จ่ายสะพัด 66,586 ล้าน

08 พ.ค. 2568 | 09:06 น.
อัปเดตล่าสุด :08 พ.ค. 2568 | 09:10 น.

ม.หอการค้าไทย เผยผลสำรวจการใช้จ่ายช่วงเปิดเทอม-วันวิสาขบูชา ปี 2568 คาดใช้จ่ายสะพัด 66,586 ล้านบาท โดยเฉพาะผู้ปกครองจ่ายเงินเกี่ยวกับการศึกษาสูงสุดเป็นประวัติการณ์

วันนี้ (8 พฤษภาคม 2568) นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายและผลกระทบของผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอม รวมถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายช่วงวันวิสาขบูชา ปี 2568 โดยพบข้อมูลการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเปิดเทอม ประจำปีการศึกษา 2568 และช่วงวันวิสาขบูชา รวมกันคิดเป็นเงินสะพัดมากกว่า 66,586 ล้านบาท

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ในส่วนแรก นั่นคือ พฤติกรรมการใช้จ่ายและผลกระทบของผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอม ประจำปีการศึกษา 2568 คาดจะมีมูลค่าการใช้จ่าย เป็นเงินสะพัดสูงถึง 62,615 ล้านบาท ถือว่ามียอดใช้จ่ายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่ที่เริ่มทำการสำรวจมาตั้งแต่ปี 2563 

 

พฤติกรรมการใช้จ่ายและผลกระทบของผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอมประจำปีการศึกษา 2568

 

ทั้งนี้ประเมินว่า มูลค่าการใช้จ่ายที่เป็นเงินสะพัดสูงถึง 62,615 ล้านบาท ส่วนหนึ่งอาจตีความได้ว่า ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาปรับตัวสูงขึ้น หรือผู้ปกครองให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษาของบุตรหลานมากขึ้น โดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 3.80% จากปี 2567 ที่มีมูลค่าใช้จ่าย 60,323 ล้านบาท หรือมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนที่ 26,039 บาท 

ส่วนผลสำรวจการใช้จ่ายช่วงวันวิสาขบูชา 2568 พบว่า การใช้จ่ายช่วงวันวิสาขบูชาในปีนี้คึกคักกว่าปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะมีเงินสะพัด 3,971 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.16% เทียบปี 2567 โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนด้านการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ 8,535 บาท, กิจกรรมทางศาสนา 1,903 บาท, ทำกิจกรรมอื่น 1,623 บาท, พักผ่อนอยู่บ้าน 722 บาท และกลับบ้านต่างจังหวัด 1,033 บาท

 

ผลสำรวจการใช้จ่ายช่วงวันวิสาขบูชา 2568

 

“จากผลสำรวจยังไม่พบสัญญาณว่าเศรษฐกิจไทยจะซึมตัวลงรุนแรง เพราะประชาชนยังใช้จ่ายด้านการศึกษาเต็มที่ และยังเดินทางท่องเที่ยว ทำกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงวันวิสาขบูชา ที่มีวันหยุดยาว อาจได้รับอานิสงส์จากกรณีที่สหรัฐฯ เลื่อนการเก็บภาษีตอบโต้คู่ค้า รวมถึงไทยออกไปอีก 90 วัน และอาจเลื่อนออกไปได้อีก ถ้าการเจรจาต่อรองกับประเทศคู่ค้าต่าง ๆ ยังไม่เห็นผลที่ชัดเจน แม้เริ่มเจรจากับหลายประเทศแล้ว” นายธนวรรธน์ ระบุ