พิชัย ถกผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ หวั่นทรัมป์เอฟเฟกต์ จ่อออกแพ็คเก็จเติมสภาพคล่อง

16 เม.ย. 2568 | 10:31 น.
อัปเดตล่าสุด :16 เม.ย. 2568 | 10:44 น.

รองนายกฯ พิชัย คุย ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นาน 1 ชม. รับผลกระทบนโยบายทรัมป์ สะเทือนตลาดเงิน ตลาดทุน แต่ยังประเมินผลกระทบยาก เล็งออกมาตรการช่วยเติมสภาพคล่องเอกชนส่งออก-นำเข้า

บ่ายวันนี้ (16 เมษายน 2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง และนายศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกรัฐมนตรี ได้หารือร่วมกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และคณะ เพื่อรับฟังข้อมูลร่วมกันด้านการเงินการคลัง ก่อนเดินทางไปเจรจากับรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับผลกระทบจากนโยบายด้านเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยใช้เวลาหารือนานกว่า 1 ชั่วโมง 

 

พิชัย ถกผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ หวั่นทรัมป์เอฟเฟกต์ จ่อออกแพ็คเก็จเติมสภาพคล่อง

 

นายพิชัย แถลงภายหลังการประชุมว่า ได้หารือร่วมกันกับผู้ว่าฯ ธปท. โดยเห็นว่า ขณะนี้ผลกระทบจากการดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังไม่สามารถประเมินออกมาได้ว่ามากน้อยแค่ไหน และรัฐบาลยังคงติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นได้ผลกระทบกับตลาดเงิน ตลาดทุน ตลาดพันธบัตร และผลตอบแทนพันธบัตร ซึ่งผลที่เกิดขึ้นข้างหน้ายังคาดเดาได้ยากลำบาก

“ผลกระทบที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถประเมินออกมาได้ว่ามากน้อยแค่ไหน เช่น การขาดดุลการค้า ซึ่งแต่ละประเทศจะได้รับผลกระทบไม่เหมือนกัน เพราะตอนนี้ผลกระทบจะไม่ใช่แค่กับสหรัฐฯ เท่านั้น แต่จะมีผลกระทบกับประเทศอื่น ๆ ที่มีผลกับสหรัฐฯ แล้วไทยก็ค้าขายกับประเทศเหล่านั้น ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ด้วย ดังนั้นสิ่งที่เราจะต้องดูคือการปรับการค้า การนำเข้า และการส่งออกบนกติกาที่เปลี่ยนไปด้วย” นายพิชัย ระบุ

นายพิชัย กล่าวว่า ในการหารือร่วมกันกับผู้ว่าฯ ธปท. ก็ได้คาดเดาสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นข้างหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น และต้องหามาตรการมารองรับและดูแลผู้ได้รับผลกระทบแต่ละกลุ่ม ทั้งธุรกิจขนาดใหญ่ และกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งเป็นธุรกิจของคนไทยและธุรกิจของชาวต่างชาติ ซึ่งจากการหารือก็ได้ข้อสรุปร่วมกันว่า จะเตรียมพร้อมมาตรการต่าง ๆ ออกมารองรับ โดยจากนี้จะนัดหารือกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดกับตลาดเงินและตลาดทุนต่อไป

 

พิชัย ถกผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ หวั่นทรัมป์เอฟเฟกต์ จ่อออกแพ็คเก็จเติมสภาพคล่อง

 

“ได้คุยกันว่าจะหารือกันบ่อยขึ้น เพื่อติดตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปว่ามีอะไรกระทบต่อตลาดเงิน และตลาดทุน สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะดูร่วมกัน และออกมาตรการมาดูแลร่วมกัน เพราะกลัวถ้าคิดช้าคงไม่ทัน ต้องหามาตรการรองรับกรณีที่ร้ายแรงด้วย ส่วนทางผู้ว่าฯ ธปท. ก็เห็นตรงกันว่า จากนี้จะมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้น และต้องช่วยกันดูแล” รองนายกฯ กล่าว

ทั้งนี้ในการหารือได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้นว่า ผู้ประกอบการด้านส่งออกเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับผลกระทบจากการส่งออกชะลอตัว ทำให้ส่งผลกระทบต่อการค้า เงินทุนหมุนเวียน และที่กำลังจะครบกำหนดชำระ เช่นเดียวกับผู้นำเข้าสินค้าก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ซึ่งรัฐบาลและแบงก์ชาติ จะร่วมกันคิดหามาตรการออกมารองรับ โดยเฉพาะเรื่องการแก้ปัญหาสภาพคล่องต่อไปให้ตรงจุด แต่ยังไม่ได้เคาะว่าจะใช้มาตรการใดออกมาก่อน

รองนายกฯ กล่าวว่า ในการดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบเห็นว่าขณะนี้สภาพคล่องในระบบยังมีเพียงพอที่จะออกมาตรการมาช่วยเหลือ ขณะที่การใช้กลไกของดอกเบี้ยนโยบายเข้าไปดูแลเศรษฐกิจนั้น รัฐบาลจะไม่ไปพูดถึง เพราะเป็นหน้าที่ของธปท. โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เร็ว ๆ นี้ ก็คงต้องดูปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร

 

พิชัย ถกผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ หวั่นทรัมป์เอฟเฟกต์ จ่อออกแพ็คเก็จเติมสภาพคล่อง

 

อย่างไรก็ตามข้อมูลในการหารือกับผู้ว่าฯ ธปท.ครั้งนี้จะมีส่วนหนึ่งนำไปใช้ในการเจรจากับสหรัฐฯ หรือไม่นั้น รองนายกฯ ระบุว่า ในการเจรจากับสหรัฐฯ คงไม่ได้ลงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องสถานการณ์การเงิน หรือตลาดเงิน เพราะการหารือวันนี้ ได้รับฟังข้อมูลของธปท. เกี่ยวกับแนวทางการรองรับผลกระทบเท่านั้น เช่นเดียวกับเรื่องการดูแลอัตราแลกเปลี่ยนนั้น เห็นว่า โดยทั่วไปจะไม่มีประเทศไทยที่มีนโยบายเข้าไปแทรกแซง และต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด

นอกจากนี้ในการเดินทางไปเจรจากับสหรัฐนั้น รัฐบาลจะนำข้อเสนอแนะจากการหารือร่วมกันของไทยและประธานอาเซียน พร้อมทีมที่ปรึกษาของอาเซียนไปคุยกับสหรัฐฯ ด้วยหรือไม่นั้น รองนายกฯ ยอมรับว่า คงไม่มีการไปหารือ แต่เห้นว่า ในความร่วมมืออาเซียนด้วยกันคงต้องหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลอะไรร่วมกันต่อไป