สถิติงบฯ “ราชมงคลธัญบุรี” กับ 7 เป้าหมายสู่มหาวิทยาลัยนอกระบบ

14 มี.ค. 2568 | 07:12 น.
อัปเดตล่าสุด :14 มี.ค. 2568 | 08:50 น.

ส่องงบประมาณย้อนหลัง 10 ปี "มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี” ก่อนที่ครม.จะเคาะร่าง พ.ร.บ. ที่เตรียมตัวสู่มหาวิทยาลัยนอกระบบเต็มตัว ที่มี 7 วัตถุประสงค์สำคัญ

เกาะติดอย่างต่อเนื่องหลังจาก คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ “ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี พ.ศ. ....” เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 เตรียมตราเป็นกฎหมายในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒสภาตามขั้นตอน

 

เปิดทางให้ "ราชมงคลธัญบุรี" สถาบันการศึกษาชั้นนำด้านเทคโนโลยีแห่งนี้ปรับสถานะเป็น "หน่วยงานในกำกับของรัฐ" หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "มหาวิทยาลัยนอกระบบ" ภายหลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความท้าทายด้านงบประมาณที่มหาวิทยาลัยเผชิญมาอย่างต่อเนื่อง จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า งบประมาณของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีมีความผันผวนอย่างมีนัยสำคัญในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวิกฤตที่งบประมาณดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง

ความไม่แน่นอนของงบฯ สวนทางพันธกิจที่ยิ่งใหญ่

 

ฐานเศรษฐกิจ สืบค้นข้อมูลจากสำนักงบประมาณย้อนหลังพบว่า ในปี 2558 มหาวิทยาลัยได้รับงบประมาณ 1,422.8 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 1,636.0 ล้านบาทในปี 2559 แต่หลังจากนั้น กลับเผชิญกับสถานการณ์งบประมาณลดลงอย่างต่อเนื่อง

 

ปี 2560 งบประมาณลดลงเหลือ 1,597.5 ล้านบาท และลดลงอีกในปี 2561 เหลือ 1,575.1 ล้านบาท

 

การลดลงเริ่มรุนแรงขึ้นในปี 2562 เมื่องบประมาณเหลือเพียง 1,402.6 ล้านบาท และดิ่งลงอย่างน่าตกใจในปี 2563 เหลือเพียง 1,230.2 ล้านบาท ก่อนจะแตะจุดต่ำสุดในปี 2564 ที่ 1,200.3 ล้านบาท

แม้ว่าตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา สถานการณ์จะเริ่มดีขึ้นบ้าง โดยงบประมาณเพิ่มขึ้นเป็น 1,331.6 ล้านบาท ก่อนจะลดลงเล็กน้อยในปี 2566 เหลือ 1,312.0 ล้านบาท และกลับมาเพิ่มขึ้นในปี 2567 เป็น 1,387.3 ล้านบาท ตามด้วยปี 2568 ที่ 1,490.2 ล้านบาท แต่ก็ยังไม่สามารถกลับไปสู่ระดับงบประมาณในปี 2559 ได้

 

ความไม่แน่นอนทางงบประมาณดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรงต่อการขับเคลื่อนพันธกิจของมหาวิทยาลัย ซึ่งตามร่างพระราชบัญญัติฉบับใหม่ระบุว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีมีวัตถุประสงค์ที่กว้างขวางและท้าทาย

 

"เป็นสถาบันการศึกษาทางวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสังคมศาสตร์ มุ่งส่งเสริม ประยุกต์ และพัฒนาวิชาการและวิชาชีพสู่การผลิตบัณฑิตนักปฏิบัติและนวัตกรรม อีกทั้ง ยกระดับการศึกษาด้านอาชีวศึกษา การจัดการศึกษาตลอดชีวิต ส่งเสริมการวิจัยและนวัตกรรมที่มุ่งสู่ความเป็นเลิศและสนองตอบต่อการพัฒนาประเทศ" ตามที่ระบุไว้ในมาตรา 6 ของร่างพระราชบัญญัติฯ

 

สถิติงบฯ 10 ปี มทร.ธัญบุรี

  • 2568 - 1,490.2 ล้านบาท
  • 2567 - 1,387.3 ล้านบาท
  • 2566 - 1,312.0 ล้านบาท
  • 2565 - 1,331.6 ล้านบาท
  • 2564 - 1,200.3 ล้านบาท
  • 2563 - 1,230.2 ล้านบาท
  • 2562 - 1,402.6 ล้านบาท
  • 2561 - 1,575.1 ล้านบาท
  • 2560 - 1,597.5 ล้านบาท
  • 2559 - 1,636.0 ล้านบาท
  • 2558 - 1,422.8 ล้านบาท
     

ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะบรรลุวัตถุประสงค์เหล่านี้ได้ หากต้องพึ่งพางบประมาณที่ไม่แน่นอนและมีแนวโน้มลดลง

 

อย่างไรก็ตามการปรับเปลี่ยนสถานะเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ภายใต้ร่างพระราชบัญญัติฉบับใหม่ จะทำให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีมีความคล่องตัวในการบริหารจัดการมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านงบประมาณและการบริหารงานบุคคล

 

มาตรา 4 ของร่างพระราชบัญญัติฯ ระบุชัดเจนว่า "มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีมีฐานะเป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐ ที่ไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน" ขณะเดียวกันก็ยังคง "มีสิทธิได้รับการจัดสรรงบประมาณแผ่นดินเช่นเดียวกับส่วนราชการ"

 

นั่นเท่ากับว่าการออกนอกระบบจะเปิดโอกาสให้มหาวิทยาลัยสามารถแสวงหาแหล่งรายได้นอกเหนือจากงบประมาณแผ่นดิน สามารถบริหารจัดการเงินรายได้ได้อย่างคล่องตัว รวมถึงปรับปรุงระบบบริหารงานบุคคลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

 

รักษาสมดุลระหว่างความคล่องตัวกับพันธกิจเพื่อสังคม

 

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงสู่มหาวิทยาลัยนอกระบบยังมีความท้าทายที่ต้องคำนึงถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาสมดุลระหว่างการแสวงหารายได้กับการให้โอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียม

 

ร่างพระราชบัญญัติฯ ได้วางกรอบไว้อย่างชัดเจนใน มาตรา 6 ให้มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันการศึกษาทางวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสังคมศาสตร์ มุ่งส่งเสริม ประยุกต์ และพัฒนาวิชาการและวิชาชีพสู่การผลิตบัณฑิตนักปฏิบัติและนวัตกรรม อีกทั้ง ยกระดับการศึกษา ด้านอาชีวศึกษา การจัดการศึกษาตลอดชีวิต ส่งเสริมการวิจัยและนวัตกรรมที่มุ่งสู่ความเป็นเลิศและ สนองตอบต่อการพัฒนาประเทศ 

 

นอกจากนี้ ยังให้บริการทางวิชาการและนวัตกรรมแก่สังคม ทำนุ บำรุงศิลปะและวัฒนธรรม และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อันเป็นการเสริมสร้างทุนมนุษย์ด้านคุณธรรม จริยธรรมให้สามารถดำรงชีวิตอย่างมีคุณค่า มีจิตอาสา ใฝ่รู้ และรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติ


มาตรา 7 ว่ามหาวิทยาลัยต้องยึดหลักสำคัญหลายประการ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามมาตรา 6 มหาวิทยาลัยต้องดำเนินการโดย ยึดหลักดังต่อไปนี้

  1. ความเสมอภาคทางการศึกษา ให้โอกาสทางการศึกษาแก่ประชาชนอย่างเท่า เทียมกัน และเปิดโอกาสให้ผู้ที่ด้อยโอกาสทางการศึกษาได้รับการศึกษาเต็มศักยภาพเพื่อลดความ เหลื่อมล้ำทางสังคม
  2. การพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการจัด การศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ อันจะนำไปสู่การผลิตบัณฑิตนักปฏิบัติที่มีคุณภาพ
  3. ความเป็นเลิศทางวิชาการและเสรีภาพทางวิชาการควบคู่กับคุณธรรมและ จริยธรรม
  4. การนำองค์ความรู้ ภูมิปัญญา และเทคโนโลยีสู่สังคมเพื่อพัฒนาท้องถิ่นและ ประเทศชาติ
  5. ความมีมาตรฐานและคุณภาพทางวิชาการอันเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
  6. การบริหารงานที่มีธรรมาภิบาลและการมีส่วนร่วมของผู้ปฏิบัติงานใน มหาวิทยาลัย
  7. ความมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการบริหารจัดการ


สรุป


การออกนอกระบบของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีในครั้งนี้ จึงเปรียบเสมือนการปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อความอยู่รอดและการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต ท่ามกลางความท้าทายด้านงบประมาณที่ผันผวนและไม่แน่นอน