นายพงศ์นคร โภชากรณ์ ผู้อำนวยการกองนโยบายพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน ในฐานะผู้ช่วยโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงผลการดำเนินโครงการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill) หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส (โครงการฯ) ว่า ตลอดระยะเวลาที่เปิดให้ผู้ประกอบการร้านค้าร่วมพัฒนาทักษะ ระหว่างวันที่ 19 พฤศจิกายน - 19 ธันวาคม 2568 มีผู้ประกอบการร้านค้าเข้าร่วมการพัฒนาทักษะสำเร็จจำนวน 98,930 ราย จำแนกตามช่องทางการพัฒนาทักษะ ดังนี้
ทั้งนี้ จากการคัดกรองข้อมูลพบว่า มีผู้ประกอบการร้านค้าที่ผ่านหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ ซึ่งจะได้รับสิทธิเงินสนับสนุนจากรัฐ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 97,086 ราย และมีผู้ไม่ผ่านหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ เป็นจำนวน 1,844 ราย
“สาเหตุที่ไม่ผ่านเกณฑ์ เช่น ไม่ใช่ร้านค้าถุงเงินในโครงการคนละครึ่ง พลัส พัฒนาทักษะสำเร็จก่อนเข้าร่วมในโครงการคนละครึ่ง พลัส เป็นร้านค้าที่ถูกระงับสิทธิในโครงการคนละครึ่งหรือคนละครึ่ง พลัส เป็นต้น”
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ทยอยประกาศผลการได้รับสิทธิเงินสนับสนุนจากรัฐในโครงการฯ ให้ผู้พัฒนาทักษะสำเร็จทราบในวันนี้ (23 ธันวาคม 2568) ผ่านข้อความสั้น (SMS) ตามหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ลงทะเบียนร้านถุงเงิน และข้อความแจ้งเตือน (Notification) ในแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน”
สำหรับเงินสนับสนุนในโครงการฯ ผู้ประกอบการร้านค้าจะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท ต่อ 1 หมายเลขประจำตัวประชาชนหรือหมายเลขผู้เสียภาษี โดยได้รับสิทธิเป็นเงินร้อยละ 20 ของยอดขายที่เกิดจากโครงการคนละครึ่ง พลัส เฉพาะในส่วนที่ภาครัฐร่วมจ่าย นับตั้งแต่วันที่ร้านค้าได้ดำเนินการพัฒนาทักษะสำเร็จ จนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568
“จากการประมวลผลข้อมูลของผู้ประกอบการร้านค้าที่ผ่านหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ พบว่า ผู้ประกอบการร้านค้าได้รับเงินสนับสนุนเฉลี่ยรายละ 1,210 บาท มีผู้ประกอบการร้านค้าที่ได้รับเงินสนับสนุนสูงสุดตามสิทธิจำนวน 2,000 บาท เป็นจำนวนทั้งสิ้น 34,970 ราย หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 36 ของผู้ได้รับสิทธิทั้งหมด”
และมีผู้ประกอบการร้านค้าจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้รับเงินสนับสนุน เนื่องจากไม่มีรายการยอดขายจากโครงการคนละครึ่ง พลัส ในส่วนที่ภาครัฐร่วมจ่ายในช่วงเวลาที่กำหนด
สำหรับการดำเนินการโอนเงินสนับสนุนดังกล่าว กระทรวงการคลังจะดำเนินการโอนเงินให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้าผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ที่ผูกกับแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ในวันที่ 25 ธันวาคม 2568 ซึ่งผู้ประกอบการร้านค้าสามารถตรวจสอบยอดเงินรับเข้าบัญชีได้ในวันดังกล่าว
สำหรับกรณีที่กระทรวงการคลังโอนเงินให้ไม่สำเร็จ จะมีการติดตามเพื่อโอนเงิน (Retry) อีก 2 ครั้ง ในวันที่ 30 มกราคม 2569 และในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2569 โดยเมื่อพ้นกำหนดดังกล่าว จะถือว่าผู้ประกอบการร้านค้าไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการฯ