หวั่น เมล็ดพันธุ์ทุเรียนแดง ผสมข้ามทุเรียนพันธุ์ไทย

05 มิ.ย. 2565 | 09:06 น.

สมาคมทุเรียนใต้ เตือนเกษตรกร อย่าปลูก เมล็ดพันธุ์ทุเรียนแดง หวั่น ผสมข้ามทุเรียนพันธุ์ไทย เนื้อสี จะเปลี่ยน รสชาติความหอม ความอร่อยจะด้อยไป อนาคตเสี่ยงตลาดเสียหาย 2 แสนล้าน หากไร้มาตรการป้องกัน พ่วงอัพเดทตลาดทุเรียนไทย ใน 5 ปีข้างหน้า จะเป็นอย่างไร ต้องอ่าน!

แหล่งข่าวสมาคมทุเรียนใต้ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ปัจจุบัน​ประเทศไทย​ส่งออก​ผลไม้​เป็น​มูลค่ากว่า  2.8 แสนล้านบาท เฉพาะทุเรียนอย่าง​เดียว​มีมูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท แต่​เป็น​ที่​น่า​วิตก​ว่า​ ขณะนี้​มี​ผู้​นำเมล็ด​ทุเรียน​แดงจากต่างประเทศ​มาขยายพันธุ์จำนวน​มาก​เพื่อ​จำหน่าย​ โดยไม่​มี​มาตรการ​ป้องกัน​จาก​ภาค​รัฐ ซึ่ง​ใน​อนาคต​จะ​เป็น​อันตราย​มาก​กับทุเรียน​พันธุ์​ไทย​ เพราะเมื่อเกิดการผสมข้ามพันธุ์จะทำ​ให้​ทุเรียน​พันธุ์​ดี​ของ​ไทย​ เนื้อสีจะเปลี่ยน​ไป​และรสชาติ​ความ​หอม​ ความ​อร่อยจะด้อย​ไป​จาก​เดิม​มาก​ อาจสูญเสีย​ตลาดและเกิดความ​เสีย​หายทางด้านเศรษฐกิจ​อย่าง​ร้ายแรงในอนาคต

 

นอกจากนี้ยังเผยแพร่ เพื่อให้เกษตรกร ได้ทราบอนาคตทุเรียนไทย ผ่านบทความของ พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศ และผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ประมวลและนำเสนอข้อมูลแนวโน้มของตลาดทุเรียนในประเทศจีน กับโอกาสของประเทศไทยที่จะเป็นผู้ผลิตทุเรียนรายใหญ่ที่สุดของโลกในระยะ 5 ปี (พ.ศ.2564-2568) โดยราคาทุเรียนจะขึ้นอยู่กับปัจจัยใน 3  สถานการณ์  ประกอบด้วย

 

หวั่น เมล็ดพันธุ์ทุเรียนแดง ผสมข้ามทุเรียนพันธุ์ไทย

 

1.หากจีนนำเข้าทุเรียนหมอนทองน้อยกว่า 10%  ราคาขายส่งของทุเรียนหมอนทองใน Guangzhou Jiangnan Fruit Exchange จะอยู่ที่ 177 บาท / กก. ภายในปี พ.ศ. 2568 และราคาขายส่งเฉลี่ยของทุเรียนหมอนทองในปี พ.ศ.2564-2568จะอยู่ที่ ประมาณ 174 บาท / กก.

 

 

2. หากจีนนำเข้าทุเรียนจากไทยเพิ่มขึ้น 10-15 % ราคาขายส่งของทุเรียนหมอนทองใน Guangzhou Jiangnan Fruit Exchange จะอยู่ที่ประมาณ 279บาท / กก. ภายในปี พ.ศ.2568 และราคาขายส่งเฉลี่ยของทุเรียนหมอนทองในปี พ.ศ. 2564-2568  จะอยู่ที่ประมาณ 243 บาท / กก.

 

3.หากจีนนำเข้าทุเรียนไทยมากกว่า 15% ราคาขายส่งของทุเรียนหมอนทองใน Guangzhou Jiangnan Fruit Exchange จะอยู่ที่ประมาณ 379 บาท / กก. ภายในปี พ.ศ. 2568 และราคาขายส่งเฉลี่ยของทุเรียนหมอนทองในปี พ.ศ 2564-2568จะอยู่ที่ประมาณ 290 บาท / กก.

 

ทั้งนี้ นอกจากการที่ประเทศไทยจะเป็นผู้ผลิตทุเรียนรายใหญ่ที่สุดของโลกในระยะ 5 ปี (พ.ศ.2564 -2568) และมีโอกาสอย่างมากในตลาดจีนแล้ว ยังมีการวิเคราะห์ว่า จะมีโอกาสเพิ่มมูลค่าจากการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทุเรียนได้มากขึ้น อันจะทำให้ทุเรียนพื้นบ้านและทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองของไทยได้รับความนิยมมากขึ้น รวมทั้งคุณภาพทุเรียนที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน GMP และการรับรองมาตรฐาน Good Agricultural Practice (GAP) จะเป็นโอกาสในการพัฒนาตลาดใหม่ๆ ของทุเรียนไทย อาทิ ในเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง และอินเดีย เป็นต้น