หลังจากที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดจำหน่าย “สลากดิจิทัล” บนแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ในราคาใบละ 80 บาท วันแรก (2 มิถุนายน 2565) ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ที่ผ่านมา และได้รับกระแสนใจ โดยผ่านไปเพียง 5 ชั่วโมง มีผู้เข้าไปจองซื้อสลากดิจิทัลเกือบ 5 แสนใบ
พบว่า ในเวลา 23.00 น. ของวันที่ 2 มิถุนายน 2565 ซึ่งเป็นการเปิดจำหน่ายสลากดิจิทัลวันแรก มียอดจำหน่ายสลากจำนวน 2,460,723 ใบ จากผู้ซื้อสลากจำนวน 612,141 คน
นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ยอดการจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มในวันแรก มีผลตอบรับเป็นไปด้วยดี ระบบมีความราบรื่น อาจจะเพราะเป็นการขายวันแรก เป็นเรื่องใหม่ จึงได้รับความสนใจ ที่สำคัญคือ สามารถซื้อได้ในราคา 80 บาท
โดยสิ้นสุดเวลาจำหน่าย 23.00 น. มียอดจำหน่ายสลาก 2,460,723 ใบ จำนวนผู้ซื้อสลาก 612,141 คน ใบ จากจำนวนสลากทั้งหมด 5,279,500 ฉบับ ส่วนแนวทางการเพิ่มจำนวนสลากจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มนั้น คงต้องพิจารณาความเหมาะสม เพราะสำนักงานสลากฯ เอง ก็ต้องการให้สลากแบบใบสามารถขายควบคู่กันไปได้ ไม่ได้รับผลกระทบ ต้องดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป
“เมื่อวานนี้ ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และเห็นว่าสลากดิจิทัลเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้ผู้ซื้อสามารถมาซื้อสลากได้ในราคา 80 บาทแน่นอน และระบบมีความพร้อมให้ผู้ที่ต้องการซื้อสลาก สามารถซื้อได้อีกทั้งในกรณีที่ถูกรางวัล ก็เลือกขึ้นเงินรางวัลผ่านแอพพลิเคชันได้ทันที นอกเหนือจาก การซื้อสลากจากโครงการ จุดจำหน่ายสลาก 80 บาทที่จะเพิ่มจุดจำหน่าย 1,000 จุด ทั่วประเทศไทย ได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้”
สำหรับวิธีการขึ้นเงินรางวัลนั้น กรณีถูกรางวัล ระบบจะแจ้งเตือนไปที่แอพลิเคชันเป๋าตัง ภายในเวลา 18.00 น. ของวันที่ออกรางวัล โดยให้เลือกรับรางวัลได้ 2 ช่องทางคือ
ทั้งนี้ ยืนยันว่าการกำหนดค่าธรรมเนียม และค่าอากรแสตมป์ดำเนินการเช่นเดียวกับที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการนำสลากไปขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลาก หรือธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ และธนาคารกรุงไทย
กรณีที่ถูกรางวัลสลากที่จำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มฯ จะต้องแจ้งในระบบว่า จะเลือกรับเงินรางวัลผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่งภายใน 15 วัน หากไม่แจ้งภายในกำหนด จะต้องมาขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลากภายใน 2 ปี โดยสลากที่จำหน่ายผ่านแพลตฟอร์ม หรือดิจิทัล ที่ซื้อไว้จะแสดงอยู่ในประวัติข้อมูลการซื้อ 1 ปี
ทั้งนี้ หากเลือกรับเงินรางวัลผ่านการโอนเงินเข้าบัญชีที่ผูกไว้ จะได้รับเงินโอนหลังจากที่แจ้ง ภายในระยะเวลา 12 ชั่วโมง ซึ่งยืนยันว่าจากที่ทดสอบระบบ การโอนเงินรางวัลไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ขอให้ผู้ซื้อสลากทุกคนไม่ต้องกังวล
“การจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มหรือสลากดิจิทัลนั้น สลากทุกใบเป็นของตัวแทนจำหน่ายรายย่อย สำนักงานสลากฯ เป็นแต่เพียงสนับสนุน จัดหาช่องทางการจำหน่ายในราคา 80 บาท ที่ได้ประโยชน์ทั้งผู้ซื้อ และ ส่งเสริมตัวแทนรายย่อยผู้ขาย ให้สามารถวางขายในแพลตฟอร์มซึ่งมีผู้เข้ามาซื้อเป็นจำนวนมาก ไม่ต้องเสียค่าใช้ในการเร่ขาย
ขณะเดียวกัน ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการมอมเมา เพราะปัจจุบัน ประชาชนที่ซื้อสลากตามแผงจำหน่ายก็สามารถซื้อได้แบบไม่จำกัดจำนวนอยู่แล้ว และขอย้ำว่า สลากทุกใบเป็นของพ่อแม่พี่น้องตัวแทนรายย่อย ดังนั้น การจำหน่ายสลากดิจิทัล นอกจากประชาชนผู้ซื้อจะสามารถซื้อสลากได้ในราคาที่กำหนด คือ 80 บาทแล้ว ยังเป็นการช่วยส่งเสริมอาชีพ ส่งเสริมรายได้ให้กับพ่อแม่พี่น้องที่เป็นตัวแทนรายย่อยอีกด้วย”
อย่างไรก็ดีนอกจากการซื้อสลากผ่านแอพพลิเคชัน “เป๋าตัง” แล้ว สำนักงานสลากฯ ได้มีการเปิด "ร้านสลาก 80" จำหน่ายสลากในราคาใบละ 80 บาท เพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่ง จำนวน 362 จุดในกรุงเทพมหานคร ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนที่ภาคเหนือ และภาคใต้ เพิ่งทำสัญญาเสร็จเรียบร้อย คาดว่าจำหน่ายได้ครบทุกจังหวัดทั่วประเทศในงวด 1 กรกฎาคม 2565
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเข้ามาเลือกซื้อ “สลากดิจิทัล” บนแอพฯ เป๋าตัง ได้ตั้งแต่เวลา 06.00 – 23.00 น. ทุกวัน ยกเว้นวันออกรางวัล จะเปิดจำหน่ายถึงเวลา 14.00 น. โดยมีเลขให้เลือกงวดละ 5.27 ล้านใบ
โดยทุกใบ ทุกเลข จะขายในราคา 80 บาท และสามารถซื้อได้ไม่จำกัดจำนวน ทั้งนี้ สนง.สลากจะมีการประเมินผลก่อนจะพิจารณาว่าจะเพิ่มสลากดิจิทัลหรือไม่ ซึ่งจะต้องพิจารณาความสมดุลระหว่างผู้ขายแบบเก่า และสลากดิจิทัลให้อยู่ร่วมกันได้ด้วย