“จุรินทร์”ใช้เวทีเอเปค หารือทวิภาคกับฮ่องกง ดันส่งออกสินค้าไทย

19 พ.ค. 2565 | 08:21 น.

“จุรินทร์”ใช้เวทีเอเปคหารือทวิภาคกับฮ่องกง ดันส่งออกสินค้าไทย ด้านฮ่องกงหนุนออกแถลงการณ์ร่วมและแนวคิดหลักของไทยในเรื่องแนวคิด “Open. Connect. Balance.”

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงภายหลังหารือทวิภาคีกับนายเอ็ดเวิร์ด เหยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และพัฒนาทางเศรษฐกิจ ฮ่องกง ว่า ฮ่องกงถือเป็นคู่ค้าสำคัญลำดับที่ 12 ของไทย มูลค่าการค้ารวม 4.56 แสนล้านบาท โดยไทยส่งออกไปฮ่องกงปีละประมาณ 3.65 แสนล้านบาท โดยประเทศไทยได้ดุลฮ่องกง สินค้าที่ส่งออกไปฮ่องกง เช่น คอมพิวเตอร์อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ แผงวงจรไฟฟ้า อัญมณีและเครื่องประดับ โทรสารโทรศัพท์ ผลไม้สด ผลไม้แช่เย็นและแช่แข็ง เป็นต้น

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

ประเด็นที่หารือกับท่านรัฐมนตรีฮ่องกงมี 4 ประเด็น 1.ขอให้ฮ่องกงช่วยสนับสนุนการส่งออกข้าวพรีเมียม รวมทั้งข้าวหอมมะลิจากประเทศไทยไปฮ่องกงและอาหารพรีเมียมเช่น เนื้อจากพืช(Plant Base Meat) รวมทั้งผลไม้ไทย เช่น ทุเรียน ลำไย มะม่วงและผลไม้อื่นๆเกรดพรีเมียม

“จุรินทร์”ใช้เวทีเอเปค  หารือทวิภาคกับฮ่องกง ดันส่งออกสินค้าไทย

2.ขอให้ฮ่องกงช่วยสนับสนุนธุรกิจภาพยนตร์ของไทย รวมทั้งธุรกิจดิจิทัลคอนเทนท์ด้วย ซึ่งเดือนกรกฎาคมปีนี้ในงานฮ่องกงอินเตอร์เนชันแนลฟิล์มแอนด์ทีวีมาร์เก็ต ที่สมาคมธุรกิจภาพยนตร์ไทย จะได้มีโอกาสทำ MOUกับ TVB ฮ่องกง ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้ไทยสามารถเปิดตลาดภาพยนตร์ไทยในฮ่องกงได้สะดวก กว้างขวางขึ้นรวมทั้งจูงใจให้ธุรกิจภาพยนตร์ในฮ่องกงใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ต่อไป โดยมอบให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศช่วยดูประเด็น MOU ให้ครอบคลุมรอบด้านที่สุด ถ้าเป็นประโยชน์กับธุรกิจภาพยนตร์ไทยและดิจิทัลคอนเทนท์ของเราให้มากที่สุด รวมทั้งจะเป็นการสนับสนุนส่งเสริมการใช้ Soft Power ผลักดันทั้งภาคการผลิตและบริการของไทยในการเปิดตลาดฮ่องกงในตลาดโลกต่อไป

3.ขอใช้โอกาสนี้เชิญชวนให้นักลงทุนของฮ่องกงทำธุรกิจ Wellness ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพในประเทศไทย

 4.ขอให้ฮ่องกงสนับสนุนการออกแถลงการณ์ร่วมในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจการค้าเอเปคในครั้งนี้ต่อไปด้วย

และประเด็นที่รัฐมนตรีฮ่องกงหยิบยกมาหารือมี 4 ประเด็นสำคัญ

 1.สนับสนุนการประชุมเอเปคครั้งนี้ที่ประเทศไทยทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพการประชุม พร้อมสนับสนุนการออกแถลงการณ์ร่วมและแนวคิดหลักของไทยในเรื่องแนวคิด “Open. Connect. Balance.”

2.ฮ่องกงมีความประสงค์ขอเข้าร่วมเป็นสมาชิก RCEP 15 ประเทศ ที่มีผลบังคับใช้แล้วไทยยินดีให้การสนับสนุนให้ฮ่องกงเข้ามาร่วม จะมีส่วนทำให้ RCEP ใหญ่ขึ้นและขนาดเศรษฐกิจขยายตัวออกไปด้วย  โดยตั้งแต่ 1 กรกฎาคมปี 2566 เป็นต้นไป RCEP จะเริ่มกระบวนการเปิดรับสมัครสมาชิกใหม่ขอให้ฮ่องกงแจ้งความจำนงตามกระบวนการ

นายเอ็ดเวิร์ด เหยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และพัฒนาทางเศรษฐกิจ ฮ่องกง

3.รัฐมนตรีฮ่องกงแจ้งว่าผู้บริโภคชาวฮ่องกงสนใจสินค้าระดับพรีเมียมเป็นพิเศษ นอกจากข้าวของไทยแล้วยังสนใจอาหารและผลไม้ในระดับพรีเมียม สอดคล้องกับสินค้าของไทยซึ่งได้มีการส่งออกไปยังฮ่องกงรวมทั้งในช่วงถัดจากนี้ฮ่องกงจะช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องระบบการขนส่งที่จะส่งสินค้าพรีเมียมของไทยไปยังฮ่องกงด้วย เพื่อเพิ่มตัวเลขการส่งออกของไทย

และ4.ในเรื่องของภาพยนตร์และดิจิทัลคอนเทนต์ท่านรัฐมนตรีฮ่องกงแจ้งให้ทราบว่ายินดีสนับสนุน และธุรกิจภาพยนตร์ฮ่องกงปัจจุบันมีการใช้บริการทั้งใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์รวมทั้งใช้บริการธุรกิจตัดต่อและอื่นๆสำหรับภาพยนตร์ของฮ่องกง แต่การทำ MOU ที่จะเกิดขึ้นนั้นสนับสนุน เพราะจะเป็นการเพิ่มมูลค่าการค้าต่อกันได้มากขึ้น