"กนอ."ปักหมุดนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ค ปาร์ค สู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

10 พ.ค. 2565 | 05:13 น.

กนอ.ปักหมุดนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ค ปาร์ค สู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน บอร์ดบีโอไอเล็งไฟเขียวสิทธิประโยชน์ภาษีมิ.ย.นี้ หนุนผู้ประกอบการยกระดับมาตรฐาน พร้อมโรดโชว์ดึงนักลงทุนเข้าไทยที่เจเนวา

นายนรินทร์ กัลยาณมิตร ประธานกรรมการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (บอร์ด กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ.ตั้งเป้าหมายพัฒนานิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค (Smart Park) ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในพื้นที่มาบตาพุด ที่ไม่อนุญาตให้มีการระบายมลพิษทางอากาศเพิ่มขึ้นตามความสามารถในการรองรับมลพิษทางอากาศ (Carrying Capacity) ของพื้นที่ 

 

รวมถึงลดการปล่อยมลพิษทางการจราจรและขนส่ง ผ่านกิจกรรมด้านเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว(BCG Economy) เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 ตามเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ

 

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า กนอ.ร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย ส่งเสริมการใช้ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกในการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ต ปาร์ก

 

โดยทำสัญญาจ้างบริษัท เทิดไท แอนด์ โค จำกัด ก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ต ปาร์ก เริ่มต้นงานก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.2564 มีกำหนดแล้วเสร็จพร้อมเปิดดำเนินการภายในปี 2567 และพร้อมสนับสนุนให้กับผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรม/ท่าเรืออุตสาหกรรม ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพต่อเนื่อง

ทั้งนี้ การก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ต ปาร์ก ต้องใช้คอนกรีตผสมเสร็จประมาณ 120,000 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นปริมาณปูนซีเมนต์ประมาณ 40,000 ตัน ด้วยผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์ ไฮดรอลิก ซึ่งปูนชนิดนี้มีวิธีการผลิตเช่นเดียวกับปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ธรรมดา

 

แต่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ  และได้รับการรับรองตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก (มอก.2594-2556) เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทดแทนปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ธรรมดาทั้งหมด

 

กนอ.ปักหมุดสมาร์ค ปาร์ค สู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

 

 

สำหรับปูนซีเมนต์ ไฮดรอลิกนั้น สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระยะก่อสร้างได้ถึงประมาณ 2,000,000 กิโลกรัม หรือเท่ากับปลูกต้นไม้ประมาณ 200,000 ต้น คาดว่าจะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระยะดำเนินการได้ถึง 70% เมื่อเทียบกับนิคมอุตสาหกรรมที่พัฒนาบนพื้นฐานเดิม 

 

และจะดำเนินโครงการคาร์บอน ซิมไบโอซิส​ ปลูกป่าในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสมาร์ต ปาร์ก 238 ไร่ คาดว่าจะช่วยลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศได้มากกว่า 500 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี

นอกจากนี้ กนอ.อยู่ระหว่างหารือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ (BOI) เกี่ยวกับมาตรฐานสมาร์ต อินดัสตรี เอสเตต (Smart IE) เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมเดิม ปรับเปลี่ยนและพัฒนาโรงงาน อาคารและกระบวนการผลิตสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน คาดว่าบีโอไอจะนำเสนอสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้บอร์ดบีโอไอพิจารณาได้ภายในต้นเดือนมิ.ย.นี้

 

อย่างไรก็ตาม เดือนมิ.ย. นี้ กนอ.มีกำหนดการประชุมเรื่องการจัดการกากอุตสาหกรรมอันตรายและขยะพิษ ที่กรุงเจเนวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และจะใช้โอกาสนี้นำเสนอสิทธิประโยชน์การลงทุนในประเทศไทย ตั้งเป้าหมายเชิญชวนนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในไทยประมาณ 10 ราย