กนอ.มุ่งยกระดับท่าเรือฯมาบตตาพุดสู่การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย

09 พ.ค. 2565 | 05:42 น.

กนอ.มุ่งยกระดับท่าเรือฯมาบตตาพุดสู่การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย พร้อมใช้เรือช่วยชุมชนเก็บขยะในทะเล-ขจัดคราบ-ดับเพลิง เมื่อได้รับการร้องขอ

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ. มีเป้าหมายหลักในการเป็นผู้นำการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมครบวงจรระดับภูมิภาคด้วยนวัตกรรม มุ่งเน้นพัฒนาและให้บริการสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบวงจรตามความจำเป็น และความต้องการของผู้ประกอบการภายในนิคมฯ 

 

ทั้งนี้ ปัจจุบัน กนอ.มุ่งยกระดับนิคมอุตสาหกรรมทุกแห่งให้เป็นนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ กำกับดูแลจัดการสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม/ท่าเรืออุตสาหกรรมให้อยู่ในมาตรฐานที่ไม่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ อุบัติภัยร้ายแรงส่งผลกระทบต่อสังคมชุมชน

 

ดังนั้น เพื่อเพิ่มศักยภาพในการกำกับ ควบคุม ดูแล คุณภาพด้านสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัย 
 

รวมถึงการตอบโต้กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ตามแนวเส้นทางสัญจรของเรือสินค้า เรือทั่วไป เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับผู้ประกอบการ ในการใช้บริการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด

 

ตลอดจนสนับสนุนกิจกรรมการอนุรักษ์และรักษาสภาพแวดล้อมภายในบริเวณเขตท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ให้สอดคล้องกับประกาศกรมเจ้าท่า ที่ 134/2564 เรื่อง มาตรการความปลอดภัย การป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำ เนื่องจากน้ำมัน เคมีภัณฑ์ และสารที่เป็นอันตรายประจำท่าเรือ  

 

กนอ. โดยสำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด (สทร.) จึงจัดหาผู้มีประสบการณ์และความชำนาญ รวมถึงมีความพร้อมด้านอุปกรณ์และบุคลากร เพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการเก็บขยะ คราบน้ำมัน  

 

กนอ.มุ่งยกระดับท่าเรือฯมาบตตาพุดสู่การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

 

และดับเพลิงในเขตท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งได้ว่าจ้าง บริษัท เอ. แอนด์ มารีน (ไทย) จำกัด เป็นผู้ดำเนินงาน มีระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2565-2569 

 

โดยจะเริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2565 ซึ่งบริษัทฯ ใช้เรือเก็บขยะ ขจัดคราบน้ำมัน และดับเพลิง จำนวน 2 ลำ ได้แก่  เรือรักษ์นที 01 และ เรือรักษ์นที 02 พร้อมอุปกรณ์สำหรับดำเนินโครงการ

"การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมครบวงจรระดับภูมิภาค ด้วยนวัตกรรมสู่ความยั่งยืน"

 

นายวีริศ กล่าวอีกว่า ปฏิบัติการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และสร้างความปลอดภัยทางทะเล เขตท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด จะสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการ และทุกภาคส่วน ในการเข้าใช้บริการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด รวมถึงเพิ่มศักยภาพการควบคุมดูแลสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยและความพร้อมตอบโต้กรณีเกิดภาวะฉุกเฉินในเขตท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด และชุมชนใกล้เคียงได้ 

 

 

ซึ่งเรือทั้ง2ลำจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการดำเนินภารกิจให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อไป นอกจากนี้ ยังได้พูดคุยกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดระยองด้วยว่า จะใช้เรือทั้ง 2 ลำช่วยชุมชนในการเก็บขยะในทะเล การขจัดคราบต่างๆ รวมถึงการดับเพลิง เมื่อได้รับการร้องขอด้วย เพราะการสนับสนุนชุมชนและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนั้น เป็นหนึ่งในภารกิจหลักของ กนอ.

 

นายพรเทพ ภูริพัฒน์ รองผู้ว่าการฯ ปฏิบัติการ 3  กนอ. ในฐานะผู้กำกับดูแล สทร. กล่าวว่า ปัจจุบัน สทร. มีจำนวนผู้ประกอบการท่าเรือ 12 ราย มีจำนวนท่าเทียบเรือ 33 ท่า โดยมีท่าเทียบเรือที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ สทร. 4 ท่า ได้แก่ ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด (Maptaphut Industrial Terminal :  MIT 1-4) 

 

กนอ.มุ่งยกระดับท่าเรือฯมาบตตาพุดสู่การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

 

โดยลักษณะทางกายภาพของท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดเป็นอ่าวเปิด มีช่องทางเข้า-ออก ประกอบกับที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่รับกับแนวลมมรสุมของประเทศ กระแสน้ำในพื้นที่มีการเคลื่อนไหวและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงเกิดการพัดพาขยะจากนอกพื้นที่ทั้งขยะมูลฝอย ขยะพลาสติก เข้ามาสะสมอยู่บริเวณตอนในพื้นที่รับผิดชอบของ สทร. มากกว่า 600 กิโลกรัมต่อเดือน และมีคราบน้ำมันที่ไม่ทราบจากแหล่งที่มาในบางครั้ง

 

รวมถึงเศษเชือก เศษไม้ ถูกพัดพาเข้ามาในพื้นที่ของท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ก่อให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ด้านคุณภาพน้ำทะเล อีกทั้งยังอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อการเดินเรือได้ ดังนั้น การจัดหาผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์และความพร้อมเข้ามาดำเนินการจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง

 

สำหรับเรือเก็บขยะ ขจัดคราบน้ำมัน และดับเพลิง จำนวน 2 ลำ ภายใต้ปฏิบัติการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และสร้างความปลอดภัยทางทะเล เขตท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ได้แก่ เรือรักษ์นที 01 และ เรือรักษ์นที 02  มีคุณลักษณะที่สำคัญประกอบด้วย 

 

  • เรือรักษ์นที 01 และ เรือรักษ์นที 02 เป็นเรือเก็บขยะ ขจัดคราบน้ำมัน และดับเพลิง ทำความสะอาดพื้นผิวน้ำปฏิบัติงานในอ่าว ทะเลสาบ และลำคลอง เหมาะสมสำหรับท่าเรือต่างๆ มีคุณสมบัติพิเศษคือ มีระบบดูดขยะที่เป็นทั้งของเหลว หรือขยะที่ปนมากับของเหลวได้

 

  • เรือมีระบบสายพานลำเลียงตะกร้าที่กักเก็บขยะ ระบบขับเคลื่อนของเรือเป็นแบบใบจักร พร้อมด้วยระบบทุ่นล้อมคราบน้ำมัน และมีระบบไฮดรอลิกส์สนับสนุนการทำงานระบบต่างๆ ของเรือ เช่น ระบบเก็บขยะ ระบบควบคุมหางเสือ ระบบขจัดคราบน้ำมัน และระบบดับเพลิง เป็นต้น 

 

  • ตัวเรือผลิตจากเหล็ก ใช้เครื่องยนต์ Inboard Marine Diesel ขนาด 260 แรงม้า ความยาวตลอดลำ 12.77 เมตร กว้าง 3.48 เมตร ติดตั้งเรดาร์เดินเรือ เครื่องหาตำบลที่เรือด้วยดาวเทียมและหยั่งความลึกน้ำพร้อมแผนที่ เครื่องรับส่งวิทยุสื่อสาร VHF Marine Band อุปกรณ์รายงานตนอัตโนมัติ (AIS) และเครื่องไซเรน  มีถังเก็บสารขจัดคราบน้ำมันขนาดไม่น้อยกว่า 50 ลิตร และถังเก็บน้ำมันปนเปื้อนขนาดไม่น้อยกว่า 10 ลูกบาศก์เมตร ติดตั้งปั๊มน้ำทะเลดับเพลิงแรงดันสูงพร้อมติดแท่นปืนฉีดน้ำดับเพลิงหมุนได้ 360 องศา พร้อมถังบรรจุโฟมดับเพลิงขนาด 500 ลิตร