ราชกิจจาฯ ประกาศผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าไทย เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจ

30 เม.ย. 2565 | 08:40 น.

ราชกิจจานุเบกษาประกาศผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าราชอาณาจักรไทย เพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เผยโควิดสายพันธุ์โอมิครอน “สาธารณสุข”สามารถบริหารสถานการณ์ได้

เมื่อวันที่ 29 เม.ย.2565 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ คําสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ ๔/๒๕๖๕ เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกําหนดออกตามความในมาตรา ๔ แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๘ (ฉบับที่ ๒๕)


ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติในการประชุมเมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ให้ขยาย ระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๕ จนถึงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ โดยมีคําสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ ๒๔/๒๕๖๔ เรื่อง แนวปฏิบัติ ตามข้อกําหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๘ (ฉบับที่ ๑๙) ลงวันที่ ๑๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ 

คําสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ ๒๕/๒๕๖๔ เรื่อง แนวปฏิบัติ ตามข้อกําหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๒๐) ลงวันที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ คําสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ ๒/๒๕๖๕ เรื่อง แนวปฏิบัติ ตามข้อกําหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๒๑) ลงวันที่ ๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๕ 


คําสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ ๔/๒๕๖๕ เรื่อง แนวปฏิบัติ ตามข้อกําหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๒๒) ลงวันที่ ๒๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๕ คําสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ ๕/๒๕๖๕ เรื่อง แนวปฏิบัติ ตามข้อกําหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๒๓) ลงวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๕ 

และคําสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ ๗/๒๕๖๕ เรื่อง แนวปฏิบัติ ตามข้อกําหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๘ (ฉบับที่ ๒๔) ลงวันที่ ๓๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ นั้น


โดยที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) หรือ ศบค. ได้ออกคําสั่งเพื่อกําหนดมาตรการป้องกันโรคให้เหมาะสมต่อสถานการณ์การแพร่ระบาด ของไวรัสโคโรนา 2019 กลายพันธุ์ สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ที่สามารถแพร่กระจายและมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ แต่ผู้เข้ารับการรักษาที่เป็นผู้ป่วยอาการรุนแรงทั้งระดับวิกฤต และระดับป่วยหนักยังอยู่ในขีดความสามารถที่ฝ่ายสาธารณสุขสามารถบริหารสถานการณ์ได้ 


ประกอบกับ ข้อมูลที่ฝ่ายสาธารณสุขได้รายงานว่า ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ หรือเดินทางเข้ามาในพื้นที่นําร่องด้านการท่องเที่ยว แม้จะตรวจพบผู้ติดเชื้ออยู่บ้างแต่ก็มีจํานวนน้อย และสามารถควบคุมได้ จึงมิได้เป็นปัจจัยที่มีผลให้การติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ทั่วโลกที่หลายประเทศได้เริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการป้องกันและควบคุมโรค และเปิดประเทศควบคู่ไปกับการส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ 


จึงเห็นควรปรับมาตรการป้องกันโรคให้มี ความเหมาะสม เพื่อให้การดําเนินการตามข้อกําหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกําหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและการขยาย ระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าว และตามคําสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ ๕/๒๕๖๓ เรื่อง การจัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๘ ลงวันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ 


อาศัยอํานาจตามความในข้อ ๔ (๒) ของคําสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ ๔/๒๕๖๓ เรื่อง แต่งตั้งผู้กํากับ การปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ลงวันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ และที่แก้ไขเพิ่มเติม นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อํานวยการศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด - 19 จึงมีคําสั่งให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินและพนักงานเจ้าหน้าที่ ดําเนินการให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรค ดังต่อไปนี้


ข้อ ๑ ให้ยกเลิกคําสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ ๗/๒๕๖๕ เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกําหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกําหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๘ (ฉบับที่ ๒๔) ลงวันที่ ๓๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๕


ข้อ ๒ เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมโรคโควิด - 19 มิให้เกิดการแพร่ระบาด ในราชอาณาจักร และเพื่อให้มาตรการและหลักเกณฑ์สําหรับผู้เดินทางเข้าในราชอาณาจักรมีความสอดคล้อง กับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด - 19 ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน จึงให้กําหนดมาตรการป้องกันโรค และหลักเกณฑ์การดําเนินการในสถานที่กักกันซึ่งทางราชการกําหนด สําหรับผู้เดินทางเข้ามา ในราชอาณาจักร ๓ ประเภท ได้แก่


(๑) ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งแสดงหลักฐานรับรองการได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 ครบตามเกณฑ์ที่ผู้ผลิตวัคซีนหรือที่ทางราชการกําหนด (Vaccinated Persons)


(๒) ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งมิได้แสดงหลักฐานรับรองการได้รับวัคซีนป้องกัน โรคโควิด - 19 ครบตามเกณฑ์ที่ผู้ผลิตวัคซีนหรือที่ทางราชการกําหนด (Unvaccinated / Not Fully Vaccinated Persons)


(๓) ผู้มีเหตุยกเว้นที่นายกรัฐมนตรีหรือหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน กําหนด อนุญาต หรือเชิญเข้ามาในราชอาณาจักรตามความจําเป็นโดยกําหนดหลักเกณฑ์ และเงื่อนไข สําหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรทุกประเภท ตามแนบท้ายคําสั่งนี้


ข้อ ๓ ให้ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) กํากับดูแล ประสานงาน และบูรณาการการปฏิบัติงานของพนักงาน เจ้าหน้าที่และผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อให้การเดินทางเข้าราชอาณาจักร ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศ ทางบกผ่านจุดผ่านแดนถาวร เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สอดคล้องกับมาตรการที่ ศบค. มีมติเห็นชอบแล้ว และเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขสําหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตามแนบท้ายคําสั่งนี้


ข้อ ๔ ให้หลักฐานการลงทะเบียนการเดินทางเข้าราชอาณาจักรซึ่งผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ดําเนินการเป็นไปตามที่ศูนย์ปฏิบัติการมาตรการเดินทางเข้าออกประเทศและการดูแล คนไทยในต่างประเทศ (ศปก.กต.) กําหนด ตามคําสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ ๗/๒๕๖๕ เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกําหนดออกตาม ความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๘ (ฉบับที่ ๒๔) ลงวันที่ ๓๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ 


และบรรดาคําสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ยังคงมีผลใช้บังคับต่อไป โดยผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรนั้นต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขสําหรับผู้เดินทางเข้ามา ในราชอาณาจักรตามแนบท้ายคําสั่งนี้


ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคําสั่งเปลี่ยนแปลง เป็นอย่างอื่น


สั่ง ณ วันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๕ 


พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา


นายกรัฐมนตรี 

 

ผู้อํานวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19

 

คลิกอ่าน: ศบค.ผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร