ทีมอลล์ เครืออาลีบาบา เริ่มติดป้ายสินค้าเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม

24 เม.ย. 2565 | 08:51 น.

ทีมอลล์ ติดป้ายสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยผู้บริโภคตัดสินใจซื้อ และเป็นตัวเลือกที่ยั่งยืน ล่าสุด อาลีบาบา กรุ๊ป ยังตั้งเทคโนโลยีรักษ์สิ่งแวดล้อมภายในสำนักงานใหญ่ สานต่อนโยบาย Scope 3+ มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในอีโคซิสเท็มภายในปี 2573

นายซุน หยาน หัวหน้าฝ่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ESG สำหรับผู้บริโภค ทีมการค้าดิจิทัลจีนของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวว่า แพลตฟอร์มทีมอลล์เริ่มติดป้ายสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บนสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในเดือนเมษายน 2565 และจะทยอยเพิ่มในสินค้าประเภทอื่นๆ ในหน้าแสดงสินค้า ซึ่งป้ายจะแสดงตัวเลขการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ผู้ซื้อสามารถช่วยลดลงได้หากใช้อุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงานเมื่อเทียบกับอุปกรณ์ทั่วไป ด้วยเป้าหมายที่ต้องการให้ผู้บริโภครู้ถึงผลกระทบจากการตัดสินใจซื้อ และผลักดันให้เกิดการเลือกซื้อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 

ผู้ค้าสามารถส่งสินค้าของตนให้ทีมอลล์ตรวจสอบได้ ทุกวันนี้ ทีมอลล์ ได้จัดประเภทเครื่องใช้ในบ้านที่ประหยัดพลังงานได้มากกว่า 300,000 เครื่องจากผู้ค้ากว่า 3,000 ราย

 

การให้ความสำคัญต่อสินค้าที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนทำให้อาลีบาบาเข้าใกล้ เป้าหมายในการลดคาร์บอน จำนวน 1.5 กิกะตันภายในปี 2578 ไปอีกขั้น

“เรามีความตั้งใจที่จะเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกและสร้างสรรค์ในสังคม” แดเนียล จาง ประธานและซีอีโอ กล่าวในแถลงการณ์ก่อนหน้านี้ ที่ประกาศเป้าหมายด้านความเป็นกลางทางคาร์บอนของบริษัท

 

อาลีบาบา ได้ผลักดันให้ผู้บริโภคใช้ขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเลือกซื้อสินค้ามือสอง นอกจากนี้ อาลีบาบา ยังเป็นตลาดสำหรับสินค้าที่ยั่งยืนในทุกหมวดหมู่ของการช้อปปิ้ง

 

จาก ผลสำรวจ ของบริษัทที่ปรึกษา PWC เกี่ยวกับผู้บริโภคในจีนเมื่อปี 2564 พบว่า 72% ของผู้ตอบแบบสอบถามพยายามซื้อสินค้าจากบริษัทที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม 41% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า การขาดตัวเลือกสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมก็นับว่าเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดต่อการช้อปปิ้งแบบยั่งยืน

แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและแบรนด์ต่างๆ ก็กำลังหันมาติดป้ายคาร์บอนฟุตพริ้นท์เช่นกัน เพื่อให้ผู้บริโภคทราบเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของสินค้า แต่ก็ยังคงมีความท้าทายอยู่

 

เพราะยังขาดมาตรฐานที่เป็นยอมรับในวงการในการวัดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของสินค้า จึงทำให้ยังไม่ได้ใช้กันแพร่หลายนัก อาลีบาบาเองก็กำลังลดช่องว่างดังกล่าวด้วยแนวทางที่ประยุกต์ใช้ทั่วทั้งวงการ

 

เมื่อเดือนที่แล้ว อาลีบาบาเป็นหนึ่งในหลายบริษัทที่ร่วมมือกับสถาบันมาตรฐานแห่งชาติจีน (China National Institute of Standardization) ในการร่างแนวทางเพื่อสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แนวทางดังกล่าวจะกำหนดขั้นตอนที่เป็นรูปธรรมในการวัดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของสินค้าต่าง ๆ และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคมเป็นต้นไป ด้วยเหตุนี้ อาลีบาบาจึงกลายเป็นบริษัทจีนแห่งแรกที่ปรับใช้แนวทางดังกล่าวบนแพลตฟอร์มของตัวเอง เช่น เครื่องปรับอากาศจะปล่อยคาร์บอนน้อยกว่า 52.62 กิโลกรัมต่อปีเมื่อเทียบกับการใช้เครื่องปรับอากาศปกติ ซึ่งสอดคล้องกับการใช้พลังงานระดับ 1 ที่รัฐอนุมัติ คล้ายกับฉลากประหยัดพลังงาน (Energy Star) ของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐฯ

 

“เราหวังว่าแบรนด์อื่น ๆ จะลงทุนพัฒนาสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หลังจากที่ได้เห็นผู้บริโภคกระตือรือร้นและปรับตัวเพื่อความยั่งยืนเพิ่มขึ้น” ซุนกล่าว

 

ล่าสุด อาลีบาบา กรุ๊ป ยังจัดตั้งเทคโนโลยีรักษ์สิ่งแวดล้อมภายในรั้วสำนักงานใหญ่ของบริษัท เพื่อสานต่อนโยบาย Scope 3+ ที่มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในอีโคซิสเท็มของบริษัทภายในปี 2573 ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมระบบเปิด-ปิดไฟผ่านแอป หรือการสะสมแต้มผ่านการกระทำที่รักษ์โลก