ฟินเทค-อีคอมเมิร์ซ-EV รุ่ง “เอ็นทีที เดต้า” ร่วมกองทุนสตาร์ทอัพกรุงศรีฯ

24 มี.ค. 2565 | 10:31 น.

“เอ็นทีที เดต้า” ร่วมลงทุนเป็นรายที่ 4 กองทุนสตาร์ทอัพ “ฟินโนเวนเจอร์ ไพรเวท อิควิตี้ ทรัสต์ 1” มูลค่า 3,000 ล้าน เสริมความแข็งแกร่งธุรกิจ ฟินเทค อีคอมเมิร์ซ และออโตโมทีฟสู่ยานยนต์ไฟฟ้า

 

รายงานข่าว ( 24 มี.ค. 65)แจ้งว่า บริษัท เอ็นทีที เดต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือบริษัท เอ็นทีที เดต้า คอร์ปอเรชัน จำกัด ผู้นำด้านธุรกิจดิจิทัลและบริการด้านไอทีชั้นนำระดับโลก ได้ร่วมลงทุนในกองทุนสตาร์ทอัพ “ฟินโนเวนเจอร์ ไพรเวท อิควิตี้ ทรัสต์ 1” (Finnoventure Private Equity Trust 1) ภายใต้การบริหารกองทุนของกรุงศรี ฟินโนเวต (Krungsri Finnovate)

 

ความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างบริษัทผู้ให้บริการทางด้านไอทีและเทคโนโลยีชั้นนำของโลก ครั้งนี้เพื่อส่งเสริมคัดเลือกสตาร์ทอัพชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมต่อยอดผลิตภัณฑ์และบริการเสริมศักยภาพลูกค้ากลุ่มฟินเทค อีคอมเมิร์ซ และออโตโมทีฟ ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 

ฮิโรนาริ  โทมิโอกะ

 

นายฮิโรนาริ โทมิโอกะ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็นทีที เดต้า (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า เอ็นทีที เดต้า (ประเทศไทย)ในฐานะคู่ค้าเชิงกลยุทธ์กับธนาคารกรุงศรีอยุธยามาเป็นระยะเวลานาน ล่าสุดบริษัทได้ตัดสินใจร่วมลงทุนใน “ฟินโนเวนเจอร์ ไพรเวท อิควิตี้ ทรัสต์ 1” กองทุนสตาร์ทอัพมูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท โดยมีกรุงศรี ฟินโนเวต บริษัทร่วมลงทุนในเครือกรุงศรี กรุ๊ป เป็นผู้ดูแลและบริหารกองทุน

 

สำหรับกองทุนนี้เน้นการลงทุนเชิงกลยุทธ์แบบครบวงจรเพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัพใน 3 กลุ่ม ได้แก่ สตาร์ทอัพในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีการเงิน (ฟินเทค) อุตสาหกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (อีคอมเมิร์ซ)  และอุตสาหกรรมยานยนต์ (ออโตโมทีฟ) ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้เติบโตสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้และกลายเป็นยูนิคอร์นและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ พร้อมสร้างระบบนิเวศของสตาร์ทอัพอย่างยั่งยืน

 

นอกจากนี้ กรุงศรี ฟินโนเวต ยังมีพันธมิตรที่สำคัญอย่าง เอ็มยูเอฟจี อินโนเวชัน พาร์ทเนอร์ (MUFG Innovation Partners Co., Ltd.: MUIP) บริษัทร่วมลงทุนในเครือ MUFG สถาบันการเงินชั้นนำระดับโลกที่มีเครือข่ายแข็งแกร่ง ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในการคัดสรรและลงทุนในสตาร์ทอัพ โดยทางเอ็นทีที เดต้า เป็นพาร์ทเนอร์ที่ช่วยพัฒนากลยุทธ์ทางด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยีไอทีให้กับ เอ็มยูเอฟจี ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งเชื่อว่าการขยายความร่วมมือในครั้งนี้จะสามารถสร้างความสำเร็จและการเติบโตที่แข็งแกร่งให้กับกองทุน

 

นายฮิโรนาริ กล่าวอีกว่า การลงทุนครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในธุรกิจใหม่ในการสร้างความร่วมมือและพันธมิตรทางธุรกิจกับสตาร์ทอัพที่อยู่ภายใต้กองทุน เพื่อบูรณาการนวัตกรรมและเทคโนโลยีจากสตาร์ทอัพชั้นนำในภูมิภาคมาต่อยอดทางธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถให้กับลูกค้า สามารถตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคยุคใหม่ในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ โดย เอ็นทีที เดต้า พร้อมสนับสนุนกลุ่มสตาร์ทอัพที่ต้องการความร่วมมือ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ต่อยอดผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีให้กับลูกค้าต่อไป

 

ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าหลักของเอ็นทีที เดต้า คือ กลุ่มธุรกิจสถาบันการเงินและกลุ่มธุรกิจยานยนต์ ซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายด้วยการพลิกโฉมหน้าธุรกิจด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ธุรกิจการเงินกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่โลกการเงินไร้ศูนย์กลางอย่างรวดเร็ว เชื่อมโยงเข้าหากันอย่างไร้พรมแดนเพื่อแข่งขันกันตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ และสร้างประสบการณ์ทางการเงินที่สะดวกและรวดเร็วกับผู้คนทั่วโลก

 

ขณะเดียวกันธุรกิจยานยนต์ถูกท้าทายให้เร่งปรับตัวเข้าสู่ยานยนต์ไฟฟ้าและยานยนต์อัจฉริยะ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ Net zero โดยเร็ว ไปพร้อมกับการแก้ไขวิกฤตพลังงานเชื้อเพลิง ซึ่งกลุ่มประเทศอาเซียนยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก การเข้าไปร่วมลงทุนในครั้งนี้ถือเป็นตัวเชื่อมที่จะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ไปช่วยต่อยอดเสริมความแข็งแกร่งให้กับลูกค้าทั้งสองกลุ่ม

 

ด้านนายแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด กล่าวว่า กองทุนฟินโนเวนเจอร์ ไพรเวท อิควิตี้ ทรัสต์ 1 ได้รับความไว้วางใจและการตอบรับที่ดีจากองค์กรชั้นนำในหลากหลายธุรกิจ และ เอ็นทีที เดต้า เป็นผู้ลงทุนรายล่าสุดที่ตัดสินใจร่วมลงในกองทุนดังกล่าว ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญที่บริษัทที่ปรึกษาและผู้ให้บริการทางด้านไอทีและเทคโนโลยีชั้นนำของโลก เข้าร่วมสนับสนุนสตาร์ทอัพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการสร้างโอกาสเติบโตให้กับสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพ

 

แซม  ตันสกุล

 

ขณะเดียวกันก็สร้างผลตอบแทนและการเติบโตทางธุรกิจให้กับนักลงทุนในระยะยาวอีกด้วย กรุงศรี ฟินโนเวต ในฐานะผู้บริหารกองทุนเชื่อมั่นว่า การลงทุนครั้งนี้จะเป็นโอกาสในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ของสตาร์ทอัพเหล่านั้นไปต่อยอดธุรกิจระดับโลก และที่สำคัญยังเป็นโอกาสในการประสานความร่วมมือกันในอนาคตระหว่างผู้ลงทุน เราอาจจะได้เห็นความร่วมมือในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆร่วมกัน

 

ก่อนหน้านี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) บริษัท ปตท. นํ้ามันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) และ บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) (SO) เป็น 3 องค์กรแรกที่ร่วมลงทุนในกองทุนฟินโนเวนเจอร์ ไพรเวท อิควิตี้ ทรัสต์ 1 และ เอ็นทีที เดต้า นับเป็นผู้ลงทุนรายที่ 4 ที่ตัดสินใจร่วมลงทุนในกองทุนดังกล่าว