อัพเดท 10 มาตรการลดค่าครองชีพใหม่ รอฟังรัฐบาลตั้งโต๊ะแถลงบ่ายโมงวันนี้

24 มี.ค. 2565 | 01:35 น.

วันนี้เวลา 13.30 น. รัฐบาลเตรียมตั้งโต๊ะแถลงมาตรการลดค่าครองชีพ เยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันแพง สินค้าราคาแพง และวิกฤตยูเครน-รัสเซีย พร้อมปรับ 10 มาตรการใหม่ล่าสุด มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิมบ้าง ติดตามได้ที่นี่

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ออกมาตรการลดค่าครองชีพ เพื่อช่วยเหลือประชาชนเร่งด่วนบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมัน เพิ่มเติมจากนโยบายต่าง ๆ ที่รัฐบาลได้ออกไปแล้วและยังใช้อยู่

 

ทั้งนี้มีการประเมินว่า ด้วยมาตรการลดค่าครองชีพที่ออกมาครั้งนี้ จะมีประชาชนที่ได้รับประโยชน์ไม่น้อยกว่า 40 ล้านคน ใช้วงเงินไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท 

 

นายธนกร กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้รับทราบความลำบากของประชาชนที่เกิดขึ้น จากสถานการณ์ความผันผวนของราคาพลังงาน จากความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซียที่ยืดเยื้อ ทำให้ค่าครองชีพมีการปรับตัวสูงขึ้น จึงออกมาตรการมาช่วยเหลือ

สำหรับมาตรการชุดนี้ จะสามารถช่วยลดค่าครองชีพบรรเทาผลกระทบจากครัวเรือนได้จริง โดยเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะยังสามารถขยายตัวอย่างน้อยได้ไม่ต่ำกว่า 3%

 

โดยในวันนี้ เวลา 13.30 น. รัฐบาบจะมีการแถลงรายละเอียดมาตรการช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย โดยเฉพาะมาตรการลดค่าครองชีพ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนที่พุ่งเป้าไปที่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ที่ทำเนียบรัฐบาล

 

สำหรับผู้ที่แถลงรายละเอียด ประกอบด้วย

  • นายสุพัฒน์พงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน
  • นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง
  • นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน
  • ปลัดกระทรวงพลังงาน
  • ปลัดกระทรวงการคลัง
  • เลขาธิการ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 

 

“นายกฯ ย้ำให้ทุกกระทรวงและทุกหน่วยงานทำงานอย่างหนัก ในการช่วยเหลือแบ่งเบา ภาระค่าครองชีพ แก้ปัญหาหนี้สินภาคประชาชนให้ได้มากที่สุด  ด้วยมาตรการและแผนฟื้นฟูประเทศที่ได้วางไว้ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ตามที่ท่านนายกรัฐมนตรียืนยันมาตลอดว่าไม่มีทิ้งใครไว้ข้างหลัง และยังจะเร่งเดินหน้าพลิกโฉมประเทศไทย สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ใหม่ ๆ ให้คนไทยต่อไป” นายธนกร กล่าว

สำหรับรายละเอียดของ 10 มาตรการลดค่าครองชีพ ซึ่งมีการอัพเดทใหม่ ณ วันที่ 23 มี.ค.2565 มีดังนี้

  1. ผู้ใช้ก๊าซหุงต้มที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 3.6 ล้านคน ได้รับการเพิ่มวงเงินช่วยเหลือค่าก๊าซหุงต้มเป็น 100 บาท/ 3 เดือน เป็นเวลา 3 เดือน
  2. ผู้ค้าหาบเร่แผงลอยที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 1,500 คน ได้รับส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้มเดือนละ 100 บาท เป็นเวลา 3 เดือน
  3. ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง 1.57 แสนคน ได้รับส่วนลดค่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 5 บาท/ลิตร จำนวน 50 ลิตร เป็นเวลา 3 เดือน
  4. ตรึงราคาขายปลีก NGV ที่ 15.59 บาท/กก.
  5. ผู้ขับรถแท็กซี่ที่อยู่ในโครงการลมหายใจเดียวกัน ได้ซื้อก๊าซในราคา 13.62 บาท/กก. ในวงเงิน 10,000 บาท/เดือน เป็นเวลา 3 เดือน
  6. ตรึงราคาน้ำมันดีเซล ไว้ที่ 30 บาท/ลิตร
  7. ครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าต่ำกว่า 300 หน่วย จำนวน 20 ล้านหลังคาเรือน ได้รับส่วนลดค่า FT เป็นเวลา 4 เดือน
  8. นายจ้างและผู้ประกันตนในมาตรา 33 จำนวน 11.2 ล้านคน ได้รับการลดเงินนำส่งจาก 5% เหลือ 1% งวดค่าจ้าง พ.ค. – ก.ค. 
  9. ผู้ประกันตนในมาตรา 39 จำนวน 1.9 ล้านคน ได้ลดเงินนำส่งจาก 9% เหลือ 1.9% หรือจาก 432 บาทต่อเดือน ลดเหลือ จำนวน 91 บาทต่อเดือน ในงวดค่าจ้าง เดือนพ.ค. – ก.ค. 2565
  10. เกษตรกร 9 ล้านคน จะได้รับประโยขน์จากการแก้ปัญหาปุ๋ยแพงและปุ๋ยขาด และแก้ปัญหาอาหารสัตว์

 

อย่างไรก็ตามตามมาตรการดังกล่าว ได้มีการปรับปรุงรายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งมีความแตกต่างจากบางมาตรการที่นายกรัฐมนตรี ได้มีการแถลงไว้หลังการประชุมครม. เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา เช่น

 

การตัดแนวทางการช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ออกไปจากเดิม พร้อมเพิ่มการช่วยเหลือเกษตรกร 9 ล้านคน จะได้รับประโยขน์จากการแก้ปัญหาปุ๋ยแพงและปุ๋ยขาด และแก้ปัญหาอาหารสัตว์ เข้ามาแทน